เดินตามรอยเท้าพ่อ สู่แวดวงค้าแข้ง
เดินตามรอยเท้าพ่อ เป็น ‘ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น’! ก็ว่าได้ เมื่อลูกชายของทั้งเดนนิส เบิร์กแคมป์ และเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่
เพิ่งเซ็นสัญญากับวัตฟอร์ด โดย มิทเชล เดนนิส เบิร์กแคมป์ จะเล่นให้กับทีมจากแชมเปี้ยนชิพด้วยสัญญา 6 เดือนหลังจาก
การล้มเหลวในการไปทดสอบฝีเท้ากับอาร์เซนอล ในขณะที่เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ย้ายมาจาก ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ทีมเก่า
ของพ่อของเขาซึ่งปัจจุบันคุมเปแอสเช
แต่พวกเขาไม่ใช่ผู้เล่นเพียงคนเดียวที่สืบทอดพรสวรรค์ด้านฟุตบอลของผู้เป็นพ่อ แต่จะมีพ่อลูกคู่ไหนบ้างนั้น เราได้รวบรวมมา
ให้แล้วปีเตอร์+แคสเปอร์ ชไมเคิลและ ไบรอัน+ไนเจล คลัฟ คือตัวอย่างของคู่พ่อ-ลูก ที่ประสบความสำเร็จในวงการฟตุบอล
หลังจากมีการสืบทอดพรสวรรค์อันน่าเหลือเชื่อให้กันและกัน แต่นอกจากทั้งสองแล้วจะมีคู่ไหนอีก
-โยฮัน และยอร์ดี้ ครัฟฟ์โยฮัน ครัฟฟ์ ผู้ล่วงลับได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดตลอดกาล โดยได้รับรางวัล
บัลลงดอร์อันทรงเกียรติสามสมัยตลอดการค้าแข้งของเขา ในช่วงทศวรรษ 1970 ปีกรายนี้เล่นให้กับอาแจ็กซ์ ก่อนที่จะย้ายไป
บาร์เซโลน่า นอกจากนี้เขายังได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นแห่งทัวร์นาเมนต์ในฟุตบอลโลกปี 1974 หลังจากนำทีมชาติ
เนเธอร์แลนด์คว้าแชมป์ได้สำเร็จ ส่วนยอร์ดี้ เดินตามรอยเท้าพ่อ
มีความตั้งใจที่จะเป็นนักฟุตบอลด้วยเงื่อนไขของตัวเอง ยอร์ดี้ซึ่งมีชื่อจริงว่าโยฮัน เลือกที่จะใช้ชื่อ ยอร์ดี้ บนเสื้อของเขา เช่น
เดียวกับพ่อของเขา เขาเล่นให้กับบาร์เซโลน่า จากนั้นก็ย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งโชคร้ายที่การค้าแข้งของเขาต้อง
เผชิญกับอาการบาดเจ็บ ตอนนี้ยอร์ดี้เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของสโมสรเซินเจิ้น เอฟซี ในไชนีส ซูเปอร์ ลีก
-ปีเตอร์และ แคสเปอร์ ชไมเคิลปีเตอร์ อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติเดนมาร์ก มีบทบาทโดดเด่นในการคว้าแชมป์ยูโร 92 ของ
ประเทศของเขาเพราะสามารถเซฟลูกเหลือเชื่อได้หลายครั้งในรอบชิงชนะเลิศกับเยอรมนี ผู้รักษาประตูคนดังยังมีส่วนสำคัญ
สำหรับการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์แห่งประวัติศาสตร์เมื่อปี 1999 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก, เอฟเอ คัพ
แชมเปี้ยนส์ ลีก เดินตามรอยเท้าพ่อ
ที่สามารถเอาชนะบาเยิร์น มิวนิก สปีเตอร์ได้ถ่ายทอดทักษะของเขาให้กับแคสเปอร์ลูกชายวัย 34 ปี ซึ่งเริ่มต้นค้าแข้งกับทีมคู่
แข่งอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากนั้นแคสเปอร์ ก็เซ็นสัญญากับน็อตต์ส เคาน์ตี้, ลีดส์ ยูไนเต็ด ใน ที่สุดก็เป็นทีมเลสเตอร์
ซิตี้ ในปัจจุบันซึ่งเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมแห่งเทพนิยายที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก เมื่อปี 2016
– เซซาเร และเปาโล มัลดินี่ เซซาเร กองหลังชาวอิตาลีอยู่ในทีมเอซี มิลาน ชุดแรก ตอนพวกเขาคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ
ปี 1963 เขาเล่นมากกว่า 400 เกมให้กับทีม คว้าแชมป์เซเรีย อา สี่สมัย นอกจากนี้เขายังได้คุมทีมระหว่างปี 1972-1974
อีกครั้งในปี 2001 ส่วน เปาโล ลูกชายของเขา
มีชีวิตค้าแข้งที่รุ่งโรจน์มากกว่าคุณพ่อที่ล่วงลับ เขาได้ปรากฏตัว มากกว่า 900 ครั้งให้กับเอซี มิลาน ตลอดอาชีพค้าแข้ง 25
ปีของเขารวมไปถึงตอน ที่มัลดินี่ผู้พ่อเป็นผู้จัดการทีม เปาโลสะสมถ้วยแชมป์ได้ 25 รายการในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่ซาน ซิโร่
ติดทีมชาติถึง 126 ดูบอลสด
นัดในขณะที่คุณพ่อของเขาติดแค่ 14 ครั้ง
-แดนนี่ และเดลีย์ บลินด์แดนนี่ เป็นกองหลังที่ได้ลงสนามเกือบ 500 นัดให้กับอาแจ็กซ์ตลอด 13 ปีที่สโมสร อยู่ที่นั่น
เมื่อพวกเขาคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 1995 เขาเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลชาวดัตช์เพียงสามคนที่ชนะการแข่งขัน
ระดับสโมสรของยูฟ่า ถ้วยในระดับทวีป หลังจากแขวนสตั๊ดพร้อม ความสำเร็จอย่างสวยงาม เขาก็เปลี่ยนอาชีพมาเป็น
โค้ชคุมอาแจ็กซ์ก่อนที่จะกลายเป็นผู้จัดการทีมทีมชาติเนเธอร์แลนด์ระหว่างปี 2015-2017 ส่วนเดลีย์
ใช้เวลาเจ็ดฤดูกาลในทีมของพ่อของเขา ก่อนที่จะย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2014 ซึ่งเขาเล่นในฐานะกองกลางตัวรับ
เดลีย์อยู่ที่แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นเวลาสี่ปีก่อนที่จะกลับมาที่อาแจ็กซ์ในปี 2018 แข้งวัย 30 ปียังติดทีมชาติอีก 66 ครั้งแฮร์รี่
เริ่มต้นอาชีพของเขาในทีมเยาวชนของสเปอร์ส จากนั้นก็ลงเล่นให้ กับทีมอื่นๆ เช่นเวสต์แฮม, เอเอฟซี บอร์นมัธ เบรนท์
ฟอร์ด ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดเพื่อมาเป็นผู้จัดการทีมบอร์นมัธ ในปี 1983 แฮร์รี่ ยังคุมทีมสเปอร์ส, พอร์ตสมัธ
ซึ่งเขาสามารถคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ในปี 2008 ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส เคยคุมทีมชาติจอร์แดน ส่วนเจมี่ลูกชายของ
เขาเคยเล่นให้พ่อสมัยที่แฮร์รี่คุมบอร์นมัธ เซาธ์แฮมป์ตัน นอกจากนี้เจมี่ยังเล่นให้ลิเวอร์พูลเป็นเวลา 11 ปี อีกทั้งยังเคย
เป็นกัปตันทีมให้กับทั้งหงส์แดงสเปอร์ส เจมี่ติดทีมชาติอังกฤษ 17 นัดระหว่างปี 1995 ถึง 1999 นอกจากนี้แฮร์รี่ยังเป็น
ลุงของแฟรงค์ แลมพาร์ด ซึ่งเคยร่วมงานกันสมัยเขาคุมทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เดินตามรอยเท้าพ่อ
-พอล ทอม อินช์ พอล ที่เกิดในลอนดอนเริ่มต้นอาชีพของเขาที่เวสต์แฮม แต่กลายเป็นผู้เล่นที่ถูกเกลียดชังที่สุดที่อัพ
ตัน พาร์ค ในปี 1989 เมื่อปรากฏภาพเจ้าตัวใส่เสื้อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนที่การย้ายทีมจะเสร็จสมบูรณ์ พอลยังเล่นให้
ทีมชาติอังกฤษ เป็นกัปตันทีมผิวสี คนแรกของทีม จากนั้น ‘เดอะ กัฟเนอร์’ (ลูกพี่) ก็ย้ายไปอินเตอร์ มิลาน
ลิเวอร์พูล เดินตามรอยเท้าพ่อ
หลังจากที่ระยะหลังเขาถูกเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดร็อปจนต้องย้ายออกมาในช่วงซัมเมอร์ปี 1995 ส่วนทอมลูกชายของพอล
เริ่มต้นอาชีพของเขาที่ลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2010-11 แต่ออกจากสโมสรโดยไม่ได้ลงสนามแม้แต่ครั้งเดียว เขาใช้เวลาช่วงสั้นๆ
ในพรีเมียร์ ลีก กับทีมอย่างฮัลล์, ฮัดเดอร์สฟิลด์ คริสตัล พาเลซ และตอนนี้เล่นให้กับลูตัน ทาวน์ ทีมจากแชมเปี้ยน
ชิพซึ่งยืมตัวเขามาจากสโต๊ค ซิตี้ กล้าทุ่มเงินซื้อแนวรับ | กีฬาแกลิค