ในมุมมองของตนนั้น ในอีก 18 เดือนต่อจากนี้ คงจะมาทำอาชีพที่ปรึกษาในภายภาคหน้าแน่ๆ ในมุมมองของตนนั้น
ในมุมมองของตนนั้น ทิม เชอร์วู้ด อดีตดาวเตะผู้ดีอังกฤษ แสดงความศรัทธาว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หน้าแข้งซูเปอร์สตาร์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะถึงกับขนาดเปลี่ยนมาเป็นผู้จัดการทีมของ “อสุรกายแดง” ในเร็วๆนี้ก็ได้ ภายหลังที่ อาไวรู ลุกขึ้นมาแสดงท่าทางเสมือนเป็นกุนซือในเกมกับ ยัง บอยส์
จังหวะนั้น ซังตุช ยืนขึ้นมาเนื่องจากแสดงกริยาไม่ชอบใจกับการวินิจฉัยของผู้ตัดสิน ซึ่งมีบางบุคคลที่คิดว่ามันเป็นความประพฤติปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมเนื่องจากในขณะนั้น โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็ยืนบอกบางอย่างอยู่แล้ว โดยที่แท้ โรนัลโด้ ก็เคยทำแบบงี้ให้มองเห็นมาแล้วแบบเดียวกัน เช่นตอนไปเล่นกับทีมชาติโปรตุเกส ฯลฯ
เชอร์วู้ด เปิดเผยว่า “ส่วนตัวผมมีความคิดว่ามันเกิดเรื่องโอเคที่ รูนัลดู ลุกมาบอกบางอย่างตรงข้างสนาม แล้วก็ โอเล่ ก็จำเป็นต้องเห็นด้วยเรื่องอย่างงั้น ถ้าหากเขาเอานักเตะอย่างนั้นมาอยู่กับชมรมแล้วล่ะก็ เขาก็จะต้องทราบว่าผู้ที่เอาเข้ามาอยู่กับทีมน่ะทำอะไรกันได้บ้าง”
“นี่เป็น โรนัลโด้ ที่ต่างไปจากผู้ที่เคยอยู่ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในยุคแรก เขารู้ว่าตนเองอยากอะไร รวมทั้งถ้าหากเขามีความคิดว่าเขาต้องมายืนข้างกุนซือแล้วให้คำปรึกษาบางอยาางแล้วล่ะก็ คุณก็จำเป็นต้องยอมปลดปล่อยให้เขาทำตามนั้น เคล็ดลับเบอร์1
ผมยังไม่แน่ใจว่าเขาจะทำแบบงั้นถ้าหาก โชเซ่ มูรินโญ่ อยู่ในตำแหน่งรึเปล่า มันจะต่างไปอย่างสิ้นเชิงหากเขา (มูรินโญ่) ยังคุมกลุ่มอยู่ ในมุมมองของตนนั้น แต่ว่าอีกแง่หนึ่ง คุณก็จะต้องถาม รูนัลดู เพราะว่าเพราะเหตุไรเขาถึงมีความคิดว่าตนเองจึงควรลุกขึ้นยืนมาให้คำปรึกษาด้วย”
“พวกเราเคยได้เห็นเขาทำอย่างงั้นในระดับทีมชาติมาแล้ว อย่างที่เพิ่งจะเกิดขึ้นในศึก ยูโร เขาลุกขึ้นยืนมาสั่งการอะไรบางอย่าง ในอนาคตเขาจะแปลงเป็นที่ปรึกษาแน่ๆ ผมยอมพนันเหตุว่าเขาจะเป็นกุนซือของ แมนเชสเตอร์ ในอีก 18 เดือนถัดจากนี้ ผมมั่นใจว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ อาไวรู เลิกเล่นแล้วน่ะเขาก็จะหันไปเป็นผู้จัดการทีมโดยทันที มันเป็นตัวเลือกแบบอัตโนมัติก็ว่าได้”
อดีตกาลโค้ชเห็นว่า แม็ฌบรี สามารถแปลงเป็น พอล สโคลส์ คนใหม่ได้ในอนาคต
เรด้า เบ็คห์ตี้ อดีตผู้ฝึกสอนของ ฮันนิบัล เมจบรี้ มิดฟิลด์ดาวรุ่ง สมาคมชั้นหนึ่งของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวชมเชยจอมบุกวัย 18 ปีว่ามีดีพอที่จะแปลงเป็น พอล สโคลส์ คนใหม่ให้กับ “ปีศาจร้ายแดง” กีฬาแกลิค
เมจบรี้ นับว่าเป็นหนึ่งในลำแข้งดาวรุ่งที่ฝ่ายปรับปรุงเยาวชนของ ผีแดง เห็นว่ามีแววจะไปได้ไกล โดยช่วงหลายปีที่ผ่านมาเข้าเล่นได้สะดุดตากับกลุ่มรุ่นเยาวชน แถมยังได้เปิดฉากสนามกับกลุ่มชุดใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแล้ว 1 นัดเมื่อฤดูก่อน
เบ็คห์ตี้ ซึ่งเคยเป็นผู้ฝึกสอนให้ เมจบรี้ เวลาที่อีกฝ่ายอยู่กัา ปารีส เอฟซี นั้น เปิดเผยว่า “การจะเล่นในเกมระดับ พรีเมทียร์ลีก ได้น่ะคุณควรมีความปราดเปรียวและก็สภาพร่างกายที่อดทน
เขายังสามารถเพิ่มกล้ามของตนได้อีก หากเขาผ่านตอนสำคัญและไม่โดนอาการบาดเจ็บโจมตีแล้วล่ะก็ ผมก็แน่ใจว่าเขาจะชนะใจกุนซือของตรงนั้นได้แน่
เขาสามารถเปลี่ยนเป็น พอล สโกลส์ ในอนาคตให้กับ แนเชสเตอร์ ได้เลย เขามีคุณภาพที่เด่นเกี่ยวกับการเป็นกองกลางจนถึงสามารถแปลงเป็นยอดนักฟุตบอลได้เลย”
เปิดเผยเหตุผลเพราะเหตุใดเกม จำเป็นต้องเลื่อนมาเตะเวลาเดียวกับคู่
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ แมนเชสเตอร์ จะนำกองทัพ “ซาตานแดง” กลับมาเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับ แอสตัน วิลล่า ในศึก พรีเมียร์ลีก หลังพึ่งพลาดท่าแพ้ เวสต์แฮม คาบ้าน 0-1 ไม่เข้ารอบ 3 คาราบาว คัพ เมื่อวันพุธก่อนหน้านี้ https://www.aikijujutsu.com/
แต่เดิมเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เจอ แอสตัน วิลล่า มีโปรแกรมเล่น 15.00 น. ตรงเวลาท้องถิ่น แม้กระนั้นสุดท้ายจำเป็นที่จะต้องเลื่อนมาเล่น 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมด้วยคู่ที่ เชลซี ผู้นำฝูงร่วม จะเปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยี่ยมของ เรือใบ ผู้ครอบครองแชมป์เก่า
มูลเหตุที่เกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด จำต้องเลื่อนมาเตะให้เร็วขึ้นเป็นเพราะว่าตอนค่ำเดียวกันนั้นจะมีการแสดงดนตรีของวง คอร์ตทีนเนอร์ส จัดขึ้นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คริกเกต กราวนด์
ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากรังเหย้าของ “ปีศาจร้ายแดง” ทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเป็นห่วงประเด็นการจราจรแน่น แล้วก็ความปลอดภัย ผีแดง แถลงถึงมูลเหตุที่จะต้องเปลี่ยนแปลงเวลาการแข่งขันชิงชัยว่า
“เกมในบ้านของเรากับ แอสตัน วิลล่า จำต้องเลื่อนมาเตะเร็วขึ้น หลังจากกลุ่มที่ปรึกษาความปลอดภัยของที่ประชุมแทร็ฟฟอร์ด ขอให้เลื่อนเกมเพราะว่าจะมีคอนเสิร์ตของวง คอร์ตทีนเนอร์ส ที่แลงคาเชียร์ คริกเกต คลับ ในวันเดียวกัน”
“คำร้องขอนี้ได้รับการผลักดันและสนับสนุนจากตำรวจเกรตเตอร์ แมนเชสเตอร์ แล้วก็ขนส่งเกรตเตอร์ เพื่อหลบหลีกปัญหาฝูงชน การจราจร และก็การกระทำงานในพื้นที่ เพราะว่าสนามทั้งคู่ที่ห่างกันไม่ถึงหนึ่งไมล์” “ซาตานแดง” ตบท้าย