คล็อปป์เปิดใจ ผู้จัดการทีมฟุตบอลเฮฟวี่ เมทัล ทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จได้อยู่ที่ “หัวใจ”

คล็อปป์เปิดใจ

คล็อปป์เปิดใจ ผู้จัดการทีมฟุตบอลลิเวอร์พูล หงส์แดง ยังคงถามตนเอง อยู่ตลอดว่าเพราะเหตุไร ?

คล็อปป์เปิดใจ ย้อนกลับไปเมื่อแทบ 20 ปีที่ผ่านมา คล็อปป์ เพียรพยายามระลึกถึงหน้าลูกชายตนเอง เขาสงสัยว่าตนเอง รู้สึกอย่างไรในเวลา ที่มิได้อยู่ที่หน้าประตูเพื่อส่งลูกชายไปสถานที่เรียนวันแรก คล็อปป์ คิดหัวข้อนี้หลายที แต่ว่าก็ไม่สามารถที่จะย้อนกลับไปแก้อะไรได้ เพราะว่าเขารู้ดี ว่าในเวลานั้นสิ่ง ที่เขาเลือกทำก็เป็นสิ่งที่เขารักไม่แตกต่างกัน ซึ่งก็คือการเล่นบอล

ตอนยุคเป็นนักฟุตบอล คล็อปป์ ใช้เวลากับการฝึกฝนตลอดทั้งวัน เขาเป็นคนตั้งใจ รวมทั้งมีระบบระเบียบระเบียบเสมอ ถึงแม้ลึกๆเขาจะรู้สึกเศร้า ที่ตกลงใจทำทุกสิ่งทุกอย่างตามกฎเป๊ะๆจนถึงชีวิตส่วนตัวห่วยแตกลงเรื่อยแม้กระนั้นเขาใช้เวลาที่จะทำความเข้าใจแล้วก็เติบโตจากสิ่งที่เขาเคยพลาด ข้างหลังเปลี่ยนแปลง กุนซือ ปล่อยวางทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเพิ่มขึ้น กีฬาแกลิค

เรื่อยๆ เขาไม่ยึดติดกับอะไรเดิมๆ ซึ่งต่างกับยุคค้าลำแข้งนัก กรณีแบบอย่างก็คือ มีอยู่กาลครั้งหนึ่ง ฟาเบียน เกอร์เบอร์ นักฟุตบอล ของเขาที่ไมนซ์ 05 เดินเข้ามาขอเขาหยุดฝึกหนึ่งวัน เพื่ออยากกลับไปอยู่บ้านไปปาร์ตี้วันเกิดของแม่และก็ใช้เวลากับครอบครัว ใช่แล้วถ้าเกิดเป็น แต่ก่อน ผู้ร่วมทีมของเขาคนนี้บางทีอาจถูกโดนดุด่าและก็ไล่ออกจากห้องเกือบจะไม่ทัน

กีฬาแกลิค

แน่นอนแม้กระนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมัน ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ท้ายที่สุด คล็อปป์ อนุญาตให้กลับไปพบครอบครัว

ได้คล็อปป์ มีปรัชญาวิธีการทำกลุ่มในแบบของตน รวมทั้งโน่นเป็นแนวทางการทำให้ผู้อื่นรู้สึกสบายสำหรับการดำเนินการ เขาอยากที่จะให้บุคคลอื่นรู้สึกอิสระ อิสระจากแรงผลักดันจากด้านนอก มันเป็นกุญแจสำหรับเพื่อการบริหาร กลุ่มของเขา “หากคุณปฏิบัติตัวราว กับเป็นข้าวของ คนจะถูกใจ คุณตอนตอนขาขึ้นเพียงแค่นั้นล่ะ โน่นมิได้ทำให้ผมกระปรี้กระเปร่าเลย

คล็อปป์เปิดใจ ผมเลยจะต้องรอบอกพวกเขาว่าอย่าไปพึงพอใจเสียงวิภาควิจารณ์จากด้านนอก คำวิจารณ์สำคัญนะ แม้กระนั้นมันก็มีลักษณะท่าทางที่จะไปในด้านลบมากมายหรือบวกมากมายไปเลย คุณทำคะแนนได้ 3 ลูก แล้วทุกคนก็จะบอกคุณว่า ‘เยี่ยมที่สุด! รู้สึกอย่างไรบ้าง?’ ไม่มีผู้ใดพอใจผู้ที่จ่ายบอลก่อนหน้านั้นหรอก ในฐานะกุนซือคุณรู้ อยู่แล้วว่านักเตะเกือบจะเป็นไปไม่ได้ ดูบอลสด

ทำเป็น 3 ลูกในเกมหน้าหรอก นั่นแหละเป็นเหตุผลว่าเพราะเหตุใดการช่วยให้พวกเขาเป็น คนพึ่งพาตนเองได้ มั่นใจในตัวเอง ก็เลยเป็นสาระสำคัญมากมายๆสำหรับการดำเนินการกับพวกเขาในทุกวัน เริ่มทางลูกหนัง ด้วยการเป็นนักเตะให้กับกลุ่มไมนซ์ 05 ในตำแหน่งแผงหน้า ก่อนที่จะตอน 5 ปีข้างหลังของกิจการค้าลำแข้งเขาเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของตน

มาเล่นเป็นกองข้างหลังตัวกลาง ตลอด 12 ฤดูที่เขาค้าลำแข้งกับไมนซ์  คล็อปป์ลงสู่สนามไปทั้งนั้น 338 นัดหมายยิงได้ 52 ประตู ก่อนที่จะเขาจะจบทางการเป็นนักเตะอาชีพด้วยวัยเพียงแค่ 33 ปี “ผมไม่สามารถที่จะดำเนินการอื่นได้นอกเหนือจากบอล ตลอดมาผมศึกษาที่จะอยู่กับแรงกดดันแล้วก็การต่อสู้ กับความรู้สึกข้างในของตนเอง” ภายหลังจากประกาศห้อยสตั๊ด ดื่มไม่กี่แก้ว

คล็อปป์ เปลี่ยนแปลงหน้าที่ของตนมารับบทผู้จัดการทีมฟุตบอลของไมนซ์ในตอนข้ามคืน ซึ่งก่อนหน้า นั้นเขาไม่เคย ผ่านการอบรมการเป็นผู้ฝึกสอนมาก่อนเลย ช้เวลาไม่กี่ฤดูก็สร้างการปรากฏพาไมนซ์เลื่อนชั้นมาเตะในบุนเดสลีกาได้เสร็จ หากแม้อีก 3 ฤดูถัดมาไมนซ์จะตกชั้นลงไปอีกรอบก็ตาม “ผมยังนึกออกอยู่เลย ในช่วงเวลานั้นผมไม่มีประสบการณ์

คล็อปป์เปิดใจ อะไรทั้งหมด (การเป็นผู้ฝึกสอน) ในขณะนั้นผมรู้สึกตื่นเต้นมากมายกับจังหวะที่ได้รับ ผมไม่เคยรู้สึกว่าตนเองจะได้เป็นผู้ฝึกสอน ขณะนั้นผมไม่คิดด้วยว่า ถ้าหากทำผลงานไม่ดี จะโดนไล่ออกไหม สิ่งนี้มันไม่เคยเข้ามาอยู่ในหัวผมเลย แต่ว่าผมพึ่งจะมาคิดได้เมื่อไม่กี่ปีที่ ผ่านมาก่อนหน้านี้ ถ้าเกิดตอนนั้นไมนซ์ไล่ผมออก อาจจะไม่มีผู้ใดกล้าเปิดโอกาสลำดับที่สองกับ

ผู้จัดการทีมผู้ไม่มีประสบการณ์อย่างผมแน่ๆ นี่เป็นงานฆ่าตัวตายชัดๆ “ภายหลังที่ผมรับงานผู้จัดการทีมฟุตบอล ผมแลเห็นความคาดหวังที่จะพาทีมเลื่อนชั้น ผมจำคำบอกเล่าตนเองที่บอกกับผู้ร่วมทีมเจริญ ผมบอกพวกเขาว่านี่เป็นไมนซ์ ชุดที่ยอดเยี่ยมที่ผมเคยพบ ผมมั่นอกมั่นใจในสมรรถนะ ของพวกเขา ผมมิได้หลอกลวงกล่าว ผมกล่าวในสิ่งที่ผมเชื่อ แล้วก็ในในที่สุด

คล็อปป์เปิดใจ พวกเขาก็จะเริ่มเชื่อในตัวผมเองด้วยเหมือนกัน“ ในขณะดังที่ได้กล่าวมาแล้วคล็อปป์เลือกที่จะยังอยู่กับกลุ่มถัดไปถึงแม้กลุ่มกำลังจะตกชั้น แม้กระนั้นในช่วงฤดูกาล 2008-2009 เขาไม่อาจจะพาทีมกลับขึ้นมาบรรลุผลสำเร็จได้ ก็เลยตกลงใจลาออกจากไมนซ์ เพื่อไปรับตำแหน่งเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งภายใต้การควบคุมกลุ่มของ คล็อปป์

เขาพาทีมเสือเหลืองปัดกวาดแชมป์ล้นหลาม หนึ่งในนั้นเป็นการล้มบาเยิร์น มิวนิค ลงจาก บัลลังก์บอลเยอรมัน รวมทั้งทะลุเข้าชิงยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกในช่วงฤดูกาล 2012-2013 แต่ว่าแล้วในช่วงฤดูกาลถัดมาทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาสร้างก็พังทลายลง ดอร์ทมุนด์ เริ่มฤดู 2014-2015 ได้อย่างทรุดโทรม ทำทีมตกไปอยู่ในโซนตกชั้นกระทั่งหลายท่านตั้งปัญหากับเขาว่า

กำเนิดอะไรขึ้น ? “เวลานี้ผมรู้สึกไม่ดีมากมาย แต่ว่าผมไม่คิดว่าตนเองทำผิดพลาดอะไรมากมายก่ายกองนัก ขณะนั้นคนจำนวนไม่น้อยอาจจะมีความรู้สึกว่า เฮ้ยคล็อปป์ ไม่ไหวแล้วสติไม่ดีไปแล้วแน่นอนแต่ว่าผมก็บอกพวกเขาไปตลอดว่าผมรู้ตัวเองเป็นกุนซือที่เก่งกว่าเมื่อสามปีที่ผ่านมาเสียอีก โน่นเป็นสิ่งที่ใครอีกหลายๆคนไม่ต้องการฟังแต่ว่ามันไม่จำเป็นหรอก

คล็อปป์เปิดใจ พวกเราถูกทำให้มั่นใจว่าสิ่งที่พวกเราทำอยู่ในช่วงเวลานั้นมันถูกแล้ว พวกเราทั้งสิ้นติดอยู่ที่ตรงนั้นร่วมกัน จวบจนกระทั่งท้ายที่สุดกลุ่มสามารถกลับมาคลิกกันได้อีกที” ถึงแม้สุดท้าย คล็อปป์ จะพาทีมกลับขึ้นไปอยู่ในโซนหัวตารางได้ แม้กระนั้นท้ายที่สุดเขาก็ตกลงใจไขก๊อกน้ำลาออกจากที่ดอร์ทมุนด์ เพื่อมารับงานเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลของหงส์แดง วิธีการทำกลุ่มของ

ซ่อนเร้นไปด้วยเกมรุกที่จัดจ้า การเข้าบอลโดยย้ำเพรสซิ่งที่เร็วทันใจจนกระทั่งบีบคั้นไม่ให้คู่แข่งขันสามารถทำเกมได้ เปรียบเทียบสไตล์บอลของเขาว่าเป็น “เฮฟวี่ เมทัล บอล” เพราะว่ามันดูดุดันรวมทั้งกระด้างเสมือนดนตรีเฮฟวี่ เมทัล แต่ว่าเหนือจากแท็คติกใดๆก็ตามสิ่งที่เขาปรารถนาจากนักฟุตบอลสูงที่สุดเป็นเรื่องของสปิริตรวมทั้งหัวจิตหัวใจที่

แข็งแรงสำหรับเพื่อการเล่นบอล แล้วก็การผลิตความเกี่ยวพันในห้องแต่งตัวที่ดี ทั้งปวงนี้มาจากแพสชั่นที่เขามีให้กับกลุ่ม ใช้เวลาไม่นานก็ประสานรอยร้าวทั้งผอง จนกระทั่งทำให้กลุ่มลิเวอร์พูลกลับมาบินสูงแปลงเป็นยอดกลุ่มได้อีกที “ไม่ต้องสงสัยเลย คุณควรจะถามคำถามแม้กระนั้นอย่ามีข้อครหา พวกเราตั้งปัญหาตอนชนะเช่นเดียวกัน ผมมิได้มุ่งมาด

ความสมบูรณ์แบบจากตนเองหรือกับกลุ่ม แม้กระนั้นมันคือเรื่องธรรดาที่จะมีปริศนา แม้ภายหลังพวกเราเพิ่งจะชนะมา พวกเราก็จะถามตนเองว่าพวกเราควรเริ่มเกมถัดไปอย่างไร ทำอย่างไรให้เล่นก้าวหน้าแบบเดิมไปเรื่อยผมมองไม่เห็นว่าเป็นข้อกังหาเลย ไม่เคยมีจุดที่มีความคิดว่า ‘พระผู้เป็นเจ้า จะบอกอะไรกับพวกเขาดีล่ะต่อไปนี้’ ทั้งหมดทุกอย่างมีคำชี้แจงแล้วก็

คล็อปป์เปิดใจ คำตอบเสมอ” หลายท่านบางทีอาจจะไม่เชื่อหัวข้อนี้ เคยให้สัมภาษณ์ว่าทัศนคติต่างๆของเขาส่วนหนึ่งส่วนใดได้รับแรงจูงใจมาจากการ์ตูนประเทศสเปนเรื่อง Mort and Phil การ์ตูนที่มีข้อมูลเกี่ยวกับ 2 สายที่ถูกใจเผชิญแม้กระนั้นโชคร้าย ทั้งยังตกจากที่สูง พบระเบิด ถูกทับโดยของหนัก แม้กระนั้นเพียงพอหน้าต่อไปมันจะราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “มันไม่มีความ

สำคัญว่าถูกเหยียบจนถึงแบนหรือตกลงมาจากผา 800 เมตร ในที่สุดแล้วพวกเราจะผ่านมันไปได้ ในอีกมุมหนึ่งเป็นถึงแม้พวกเราจะแพ้ แม้กระนั้นพวกเราก็ยังมีเกมถัดไปที่พวกเราจะต้องทำเป็นดีเสมอ” นับว่าเป็นที่ปรึกษาที่มีแพสชั่นต่อเกมสูง เมื่อใดก็ตามเขาคุมกลุ่มข้างสนาม พวกเราชอบได้เห็นภาพเขาออกท่าทางมีอารมณ์ร่วมสุดกำลัง ทั้งข้างหลังเกมเขา

ก็ชอบเดินลงไปสนามเพื่อเข้าไปกอด หรือประสานมือกับนักฟุตบอลทั้งยังสนาม ไม่ใช่เพียงแค่ผู้ร่วมทีมของเขาเพียงแค่นั้น ด้าน เจมส์ ไม่ลเนอร์ หนึ่งในนักฟุตบอลของเขาเคยออกมากล่าวถึง ในประเด็นนี้ว่า “เขาถูกใจที่จะร้องตะโกนสั่งการข้างสนามอยู่แล้ว เขาถูกใจที่จะทำให้สิ่งกลุ่มนี้ส่งผลต่อเกมในสนาม หากอะไรที่มันมิได้เป็นไปตามที่เขาปรารถนา

เขาจะเดินมาบอกคุณ ทั้งยังตอนช่วงพักครึ่ง หรือตอนสัมมนากลุ่มในพรุ่งนี้ บางโอกาสเขาก็โกรธควันขึ้น บางคราวก็ไม่ เราเคยคุยกันว่า เฮ้ยวันนี้ผู้ฝึกสอนจำต้องโมโหอย่างมากแน่เลย แม้กระนั้นในที่สุดเขาก็ไม่โกรธ เขาชอบเป็นคนมีเหตุมีผลเสมอ ผมมีความรู้สึกว่ามันดีนะที่คุณมีกุนซือที่มีทั้งยังไม้อ่อนไม้แข็ง ซึ่งผู้ฝึกสอน มีมันทั้งคู่อย่าง อย่างที่ทุกคนมองเห็น

เขาชอบลงมาหาเราในสนามข้างหลังจบเกม ในฐานะกุนซือ คุณควรจะรู้ดีว่าจังหวะไหนคุณควรจะเข้าไปกอดนักฟุตบอลของคุณสนับสนุนเขา ซึ่งผู้ฝึกสอนทำประเด็นนี้ได้ดิบได้ดีมากมายๆ” เป๊ป กวาร์ดิโอล่า บางครั้งก็อาจจะถูกคิดว่าเป็นจอมแท็กติก เป็นเจ้าพ่อบอลแบบ ว่ากล่าวกิ-ตากา โชเซ่ มูรินโญ่ อาจะเป็นผู้จัดการทีมสายรถบัส เมาริสิโอ ซาร์รี หรือ โอเล่ กุนที่นาร์ โซลชาร์

บางทีก็อาจจะเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลที่ถูกใจมีลูกรัก แม้กระนั้นถ้าหากเอ๋ยถึง บอลของเขาเป็นเรื่องของจิตใจล้วนๆ “การที่พวกเราสร้างสถานการณ์ให้ทุกคนรู้สึกสำคัญ บันเทิงใจกับตนเอง ทราบว่าหน้าที่ของตนเองเป็นยังไง ทำให้เกิดความรู้สึกว่าพวกเขาได้รับความเคารพนับถือแล้วก็รู้เรื่องรู้ราวสำคัญของตน นั่นแหละชีวิตที่จะต้องเป็น”เอ่ยถึงประตูที่จะพาลิเวอร์พูลกลับมาสู่ความโหฬารอีกรอบ