รักษาการได้ดี โจนาธาน วู้ดเกต ผู้จัดการทีมฟุตบอลรักษาการของบอร์นมัธ กลุ่มระดับแชมเปี้ยนชิพ พาทีมผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 กลุ่มท้ายที่สุด

รักษาการได้ดี

รักษาการได้ดี เอฟเอ คัพ ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี ข้างหลังบุกไปเอาชนะ เบิร์นลี่ย์2-0 ถึงเทิร์ฟ มัวร์ สำหรับในการแข่งรอบ 5 (16 กลุ่มในที่สุด)

รักษาการได้ดี บอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 5 ระหว่างเบิร์นลี่ย์ เปิดบ้านจัดการ บอร์นมัธกลุ่มจากแชมเปี้ยนชิพ โดยฟอร์มปัจจุบันของทั้งสองนั้น เบิร์นลี่ย์เพิ่งจะเสมอกับ ไบรท์ตัน 1-1 ในเวลาที่ บอร์นมัธเชือดเอาชนะ เบอร์มิงแฮม 3-2

ฌอน ไดช์ ปรับกองทัพจากเกมลีกหลายตำแหน่งคู่หน้าใช้ เจย์ โรดริเกซ ยืนล่าตาข่ายกับ มาเตจ์ วีดร้า โดยมี ดไวท์ แม็คนีล ปั้นเกมทางขอบเส้น ส่วน โจนาธาน วู้ดเกต ผู้จัดการทีมฟุตบอลรักษาการของบอร์นมัธเกมนี้วางสามแนวรุกเป็น จูเนียร์ สตานิสลาส, แซม เซอร์ริดจ์ แล้วก็เดวิด บรู๊คส์

เบิร์นลี่ย์(4-4-2) : ไบลี่ย์ พีค็อค-ฟาร์เรลล์ – ฟิล บาร์ดสลี่ย์, เควิน ลอง, จิมมี่ ดันน์, แอนโธนี่ ดริสคอลล์-เกล็นน่อน – โยฮันน์ เบิร์ก กุ๊ดมุนด์สสัน (แมทธิว ลอว์ตัน น.74) เกมชนะเบิร์นลีย์

จอช เบนสัน (แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด น.65), เดล สตีเฟ่นส์, ดไวท์ แม็คนีล – เจย์ โรดริเกซ (แอชลี่ย์ บาร์นส์ น.74), มาเตจ์ วีดร้า (โฌแอล มุมบ็องโก้ น.74) รักษาการได้ดี

บอร์นมัธ(4-3-3) : อัสเมียร์ เบโกวิช – แจ็ค สเตซี่ย์ (คริส เมแฟม น.46), สตีฟ คุ้ก, คาเมร่อน คาร์เทอร์-วิคเกอร์ส, ดีเอโก้ รีโก้ – เบน เพียร์สัน,

ฟิลิป บิลลิ่ง, เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา – จูเนียร์ สตานิสลาส, แซม เซอร์ริดจ์, เดวิด บรู๊คส์ (ลูอิส คุ๊ก น.63) เกมชนะเบิร์นลีย์

เปิดตัวครึ่งแรกทั้งคู่กลุ่มยังไม่มีช่องทางเข้าทำชัดเจนกันมากแค่ไหน นาที 10 จูเนียร์ สตานิสลาส ได้ช่องซัดด้วยขวานอกกรอบแต่ว่าก็ยังหลุดกรอบออกไป นาที17 ดไวท์ แม็คนีล ผ่านบอลมาให้ เดล สตีเฟ่นส์ ทดลองกดนอกกรอบดูบ้างแต่ว่าบอลก็หลุดเสาออกไป ศิลปะการต่อสู้ญี่ปุ่น

รักษาการได้ดี

นาที21 แปลงเป็น บอร์นมัธที่ชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 แจ็ค สเตซี่ย์ ตัวบุกปีกขวาได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบ

ก่อนเฉือนมาหน้าประตูให้ แซม เซอร์ริดจ์ วิ่งมาแปด้วยซ้ายจ่ายบอลเสยตาข่ายเข้าไปเตียนๆข้างหลังเสียประตูไปก่อนเบิร์นลี่ย์ เปิดเกมรุกเข้าใส่เพิ่มมากขึ้น แต่ทว่ายังไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอัน จบครึ่งแรกเบิร์นลี่ย์ ตามหลัง บอร์นมัธ0-1 โดยสถิติครึ่งแรก ทั้งคู่กลุ่มได้โอกาส 4 ครั้งเท่าๆกัน แต่ว่าทั้งคู่กลุ่มยิงเข้ากรอบรวมกันเพียงแค่ครั้งเดียว ซึ่งก็เป็นประตูขึ้นนำของกลุ่มเยี่ยม

กลับมาเล่นต่อช่วงหลัง นาที 48 เจ้าถิ่นแทบได้ลุ้นตีเสมอ ข้างหลังบอลยาวจาก ไบลี่ย์ พีค็อค-ฟาร์เรลล์ เปิดจากหน้าประตูมาให้ เจย์ โรดริเกซ กระแทกถูให้ มาเตย์ วีดร้า หลุดเข้าไปซัดมุมแคบแต่ว่ายังไม่ผ่านมือ อัสภรรยาร์ เบโกวิช ปัดออกข้างหลังไปได้ รักษาการได้ดี

เบิร์นลี่ย์รัวบุกมาสม่ำเสมอ นาที 54 หน้าจอช เบนสัน ไหลให้ ดไวท์ แม็คนีล อัดด้วยซ้ายนอกกรอบบอลพุ่งแรงจนกระทั่ง เบโกวิช จำต้องตีออกไป อีกสองนาทีต่อมา จิมมี่ ดันน์ ครอสมาหน้าประตูให้ เจย์ โรดริเกซ โฉบมายิงไม่ถึง 6 หลาแต่ว่าบอลโผบินคานไปอย่างน่าผิดหวัง

นาที87 เหตุการณ์ของเจ้าของบ้านห่วยลงไปอีกข้างหลังมาเสียลูกโทษข้างหลัง เควิน ทดลอง ไปทำฟาวล์ แซม เซอร์ริดจ์ ล้มลงในจุดโทษ ผู้ตัดสินที่อยู่ใกล้สถานะการณ์ชี้ให้เป็นจุดลูกโทษแก่กลุ่มเยี่ยมในทันทีก่อนที่จะเป็น จูเนียร์ สตานิสลาส ซัดเข้าไปไม่เหลือให้ บอร์นมัธบุกมานำห่างเบิร์นลี่ย์ 2-0

ขณะที่เหลือถึงแม้ว่า ฌอน ไดซ์ นายใหญ่ของเบิร์นลี่ย์ จะปรับแท็คติคแล้วก็สั่งให้สมาชิกโหมบุกแม้กระนั้นก็ไม่อาจจะเจาะแนวรับของ บอร์นมัธได้ก่อนจบเกม สรุปว่า บอร์นมัธบุกมาปราบเจ้าถิ่นเบิร์นลี่ย์ 2-0 คว้าตั๋วเข้าไปเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศได้เป็นกลุ่มแรก โดยในรอบที่ 6 หรือรอบ 8 กลุ่มท้ายที่สุดนั้นจะจับฉลากตามติดคู่กัน https://rossagaels.org/