สร้างตัวผลงาน ได้ดีเยี่ยม หลังเปิดไล่อัด สิงน้ำเงิน ไปแบบสนุกสนาน

สร้างตัวผลงาน หนึ่งคะแนนขึ้นไปรั้งหัวหน้าฝูงชั่วครั้งชั่วคราวด้วยการมี 38 คะแนน

สร้างตัวผลงาน เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เกมนี้ถ้าพาทีมคว้าชัยได้จะแซง แมนฯยูไนเต็ด ขึ้นนำหัวหน้าฝูงชั่วครั้งคราว เกมนี้ใช้ 11 ผู้เล่นชุดเดิมจากที่คว้าชัยเหนือ เซาธ์แฮมป์ตัน มาได้ เจมี่ วาร์ดี้ ยืนหน้าเป้ามีตัวรุกรอสนับสนุนทั้งยัง มาร์ค อัลไบรท์ตัน, เจมส์ แมดดิสัน และก็ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ จัดแจงขับเคลื่อน

ส่วนทางแฟร้งค์ แลมพาร์ด เปลี่ยนแปลงถึง 4 ตำแหน่งจากเกมปัจจุบัน ไค ฮาแวร์ตซ์ สร้างตัวผลงาน กลับมาเป็นตัวจริง เหมือนกับ คริสเตียน พูลิสิช และก็คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ส่วน ติโม แวร์เนอร์ ถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง เริ่มครึ่งแรกมาได้เพียงแค่ 7 ตอน “สุนัขจิ้งจอกไทย” ทะยานขึ้นนำเร็วก่อนเลย 1-0 บอลจากมุมธง อัลไบรท์ตัน

เล่นสั้นกับแมดดิสัน ก่อนบอลจะคืนมาให้ อัลไบรท์ตัน หลุดเข้าไปถึงเส้นข้างหลังแล้วหักเข้ามาให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ยิงไม่เต็มเท่าปลิ้นไปเข้าทาง วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ วิ่งมาซัดเปรี้ยงจากแถวสองบอลพุ่งติดไซด์แทรกเสาเข้าไปอย่างเด็ดขาด เป็นประตูแรกของห้องเครื่องชาวไนจีเรี่ยนในฤดูกาลนี้

ตอน 16 “สิงห์บลูส์” แทบพลาดท่าเสียเม็ดลำดับที่สอง ข้างหลัง ติโมธี คาสตานเญ่ ตะลุยขึ้นมาทางด้านขวาเล่นชิ่งกับ อัลไบรท์ตันก่อนที่ คาสตานเญ่ จะไหลคืนหลังให้ เจมส์ แมดดิสัน ซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งไปชนคานอย่างอย่างโชคร้าย

ช่องทางลุ้นหนแรกของ เชลซี จำเป็นต้องคอยถึงนาทีที่ 20 จังหวะเล่นของ รีซ เจมส์ ชิ่งกับ ฮัดสัน-โอดอย ก่อนที่จะ เจมส์ จะหลุดเข้าไปซัดมุมแคบบอลพุ่งแสกกลางก่อนโดนมือ ชไมเคิ่ล ออกหลัง

อีกไม่ถึงช่วงต่อมา จากลูกเตะมุมสม่ำเสมอ เมสัน เมาน์ท เปิดมาให้ ติอาโก้ ซิลวา เทกตัวกระแทกเต็มหัวแม้กระนั้นยังเป็น คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล เซฟบอลออกไปได้อีกที

ประมาณ 26 เลสเตอร์ ได้ลุ้นอีกที บาร์นส์ เคาะให้ มาร์ค อัลไบรท์ตันซัดนอกกรอบบอลพุ่งติดไซด์แม้กระนั้นยังไม่ผ่านมือ เอดูอาร์ เมนดี้ ปัดเหาะคานหวุดดหวุดหวิด

นท. 32 เชลซี โต้ตอบสวนกลับขึ้นมาบ้าง พูลิสิช เล่นชิ่งกับ ไค ฮาแวร์ตซ์ ก่อนที่จะปีกชาวมะกันจะเลี้ยงจักจี้เข้าหน้าประตูแล้วไหลออกขวาให้ ฮัดสัน-โอดอย ซัดไปเข้าข้างตาข่าย

“เดอะ ฟ็อกซ์” ไม่สนใจปั้นเกมรุกจู่โจมมาทันควัน ประมาณ 34 แทบได้เม็ดลำดับที่สองอีก ข้างหลัง มาร์ค อัลไบรท์ตัน ตักบอลข้ามหัวแนวรับเชลซีให้ เจมี่ วาร์ดี้ สปีดเข้าไปก่อนที่จะพยายามยกบอลไม่เห็นหัวนายด่านราชสีห์ แต่ว่ายังติดเซฟของ เอมองอาร์ เมนดี้ กีฬาแกลิค

ตอน 38 จอนนี่ อีแวนส์ เข้าบอลช้าไปตัดขาคริสเตียน พูลิซิช ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดลูกโทษโดยทันที แต่ทว่าเจ้าบ้านรอดตัวข้างหลัง VAR เช็กว่าจุดเกิดเหตุกำเนิดนอกจุดโทษเท่าให้ “สิงห์บลูส์” ได้ลุ้นเพียงแค่ฟรีคิก ก่อนที่จะ เมสัน เมาน์ท จะปั่นฟรีคิกเหาะคานออกไปไกล

เมื่อทำไม่ได้ เปลี่ยนมาโดน เลสเตอร์ พังทลายทางออกนำห่างเป็น 2-0 ในทันที จากจังหวะในนท. 42 ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ วางขึ้นหน้า บอลตกพื้นเลย เจมี่ วาร์ดี้ ที่เสียหลักแต่ว่ายังเลยไปเข้าทางปืน เจมส์ แมดดิสัน ที่ยืนโล่งๆซัดบอลผ่านตัว เมนดี้ เข้าไป

จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ขึ้นนำ เชลซี 2-0 กลับมาสู้กันต่อในช่วงหลัง นท. 50 อับไบรท์ตัน เปิดมาเสาไกลให้ เจมส์ จัสติน ที่เพิ่มขึ้นสูงได้โขกโล่งๆ แต่ว่าเจ้าตัวกดลงพื้นไปเข้าข้างตาข่ายอย่างโชคร้าย

รูปเกมยังเป็น เลสเตอร์ ที่ทำกันได้ดีมากกว่า ช่วง 55 แทบได้เม็ดที่สามนำลิ่วข้างหลัง มาร์ค อัลไบรท์ตัน ส่งไปซุกก้นตาข่ายแต่ว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นล้ำหน้าไปก่อนพลาดได้ประตูอย่างโชคร้าย

อีกสองนาทีถัดมา “จิ้งจอกประเทศไทย” ได้หลุดเข้าไปส่องอีกคราวนี้เป็น ยูริ ตีเลมันส์ ที่ได้ซัดมุมแคบแม้กระนั้นยังไปโดน เอดูอาร์ เมนดี้ ออกมาขวางเซฟไว้ได้ทัน

นาที 67 แลมพาร์ด ปรับแท็คติกบ้างด้วยการเปลี่ยนเอา ฮาคิม ซิเย็ค ลงไปเล่นแทน ไค ฮาแวร์ตซ์ ก่อนอีกนาทีถัดมาจะส่ง ติโม แวร์เนอร์ ลงไปเล่นแทน คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ดูบอลสด

ด้านหลังเกม นท. 86 ฮาคิม สิเย็ค เปิดฟรีคิกเข้ามาหน้ากรอบให้ ติโม แวร์เนอร์ จิ้มบอลเปลี่ยนปากทางเข้าไป ทว่าไลน์แมนสาวยอมแพ้เป็นจังหวะล้ำหน้าของ แวร์เนอร์ก่อนทำให้กลุ่มเยือนชวดได้ประตูตีไข่แตก ตอนที่เหลือไม่มีประตูเสริมเติม จบเกม เลสเตอร์ สิตี้ เปิดรังไล่บดเอาชนะ เชลซี 2-0 เก็บสามแต้มมีเพิ่มเป็น 38 คะแนน พร้อมแซง “ผีแดง” หนึ่งคะแนนขึ้นไปรั้งผู้นำฝูงชั่วคราว ส่วน “สิงห์บลูส์” แพ้เป็นเกมที่ 6 รั้งชั้น 8 มี 29 คะแนน