บุกแทบตายได้หนึ่ง เรอัลมาดริดบุกหนักหน่วงจนสำเร็จผล กับอตาลันต้าสิบคน

บุกแทบตายได้หนึ่ง

บุกแทบตายได้หนึ่ง ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ได้เปรียบผู้เล่นตั้งแต่นาทีที่ 17 เป็นต้นมา แถมบุกเยอะแยะสร้างช่องทางแยะ ก่อนเฉือนชนะ อตาลันต้า 10 คน ไปได้ 1-0

บุกแทบตายได้หนึ่ง จำเป็นต้องดวลกันเกมสอง เพื่อหากลุ่มเข้ารอบถัดไป สำหรับในการชิงชัยศึกบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 กลุ่มท้ายที่สุด ครั้งแรก

ศึกบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 กลุ่มท้ายที่สุด ครั้งแรก ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ผู้ครอบครองแชมป์รายการนี้ 13 ยุค ซีเนอดีน ซีดาน ประสบพบเจอปัญหาผู้เล่นตัวหลักหายไปมากมาย

แนวรุกใช้ อิสหรูหรา-อเซนสิโอ เขยื้อนเกมรุกบุกถิ่น อตาลันต้า กลุ่มแข็งอิตาลี ที่ผลงานก่อนหน้านี้แจ่มเยี่ยม จาน ปิเอโร่ กาสเปโรนี่ ขนดาวเตะชุดใหญ่ นำโดยคู่หน้า “ซาปาต้า-มูเรียล” ซัดสู้แมตช์นี้

อตาลันต้า (3-4-1-2): ปิแอร์ลุยจิ โกลลินี่,ราฟาเอล โตลอย,คริสเตียน โรเมโร่,เบรัต จิมซิติ,โยอาคิม เมห์เล่ (โฆเซ่ ปาลามิโน่ น.86),มาร์เท่น เดอ รอน,

เรโม ฟรอยเลอร์,โรบิน โกเซนส์,มัตเตโอ เปสซิน่า,ดูวาน ซาปาต้า (มาริโอ ปาซาลิช น.30),หลุยส์ มูเรียล (โจซิป อิลีซิซ น.56-รุสลัน มาลินอฟสกี้ น.86)

เรอัล มาดริด (4-3-3): ติโบต์ กูร์กตัวส์,ลูกัส บาซเกซ,ราฟาแอล วาราน,นาโช่ เฟร์นานเดซ,แฟร์กล็องด์ เมนดี้,โทนี่ โครส,กาเซมิโร่,

ลูก้า โมดริช,มาร์โก อเซนซิโอ (เซร์คิโอ อาร์ริบาส น.76),อิสโก้ (ฮูโก้ ดูโร่ น.76),วินิซิอุส จูเนียร์ (มาเรียโน่ ดิอาซ น.58)

บุกแทบตายได้หนึ่ง อตาลันต้าเสียเปรียบนาทีที่ 17 อิสหรูหรา ลงต่ำกึ่งกลางสนามไหลบอลสั้นให้ วินิสิอุส จูเนียร์ จ่ายบอลเร็วขึ้นหน้าไปที่ แฟร์กล็องด์ เมนดี้

สปีดแตะต้องบอลกำลังจะหลุดคนเดียวเข้าจุดโทษ แต่ว่าถูก เรโม ฟรอยเลอร์ ขวางล้มลง ผู้ตัดสินคิดว่าจอมบุกเจ้าของบ้านเป็นคนในที่สุดยกใบแดงไล่ออกจากสนาม

ราชันได้ลุ้นนาทีที่ 25 นาโช่ เฟร์นานเดซ ดึงบอลมาผู้เดียว ก่อนฝ่าแหวกผู้เล่นเจ้าถิ่นเข้าจุดโทษทางซ้าย แล้วซัดบอลกะยัดเสาแรก แต่เจ้าตัวไม่ถูกเหลี่ยมบอลออกข้างสนามอีกฝั่งแทน เปิดรัวครึ่งหลัง

กลุ่มเยี่ยมรุกหนักนาทีที่ 38 อิสโก้ ส่งบอลดีดไซด์ก้อยขวางมาที่ ลูก้า โมดริช ทางซ้ายหน้ากรอบจุดโทษ ก่อนกองกลางเชิงสูงลากบอลเข้าจุดโทษ ตบมาที่ อิสหรูหรา ยืนหันหลังครอบครองบอลแล้วหมุนยิงบอลออกข้างเสาซ้ายไปเพียงแค่น้อยมาก

บุกแทบตายได้หนึ่ง เจ้าของบ้านโต้กลับนาทีที่ 41 มาริโอ ปาซาลิช จ่ายบอลมาให้ หลุยส์ มูเรียล จับบอลแล้วม้วนตัวซัดนอกกรอบจุดโทษ บอลเลี้ยวออกข้างประตูอย่างโชคร้าย

มาดริดเกือบจะนำนาทีที่ 45+1 โทนี่ โครส วางลูกฟรีคิกขอบนามด้านซ้ายระยะ 25 หลา บอลมากมายลางจุดโทษ กาเซมิโร่ โฉบโหม่งสลัดบอลไปติดมือ ปิแอร์ลุยจิ โกลลินี่ นายทวารเจ้าของบ้านอยู่เหมาะสมปัดออกมาเฉียด หมดครึ่งแรกเท่ากัน 0-0

บุกแทบตายได้หนึ่ง

กลุ่มเยี่ยมหวุดหวิดทำเป็นนาทีที่ 48

บุกแทบตายได้หนึ่ง อิสโก้เก๋ ผ่านบอลเรียดเข้ากึ่งกลางให้ ลูก้า โมดริช จิ้มป้ายมาทางขวามือไปที่ มาร์โก อเซนสิโอ โยกหลอกผู้เล่นอตาลันต้า จ่ายย้อนมาที่กองกลางวัวรแอต จับบอลแล้วซัดเร็วไปติดแนวรับเจ้าถิ่นที่ยืนขวาง บอลปลิ้นเกลือกออกข้างเสาทางซ้ายเพียงแต่น้อยมาก กีฬาแกลิค

พระราชาชุดขาวชวดนำอีกนาทีที่ 53 โทนี่ โครส หยอดบอลขอบสนามด้านซ้าย บอลมาตกใส่แข้ง วินิสิอุส จูเนียร์ ก่อนเจ้าตัวได้ยิงแบบโล่งหน้าประตู แต่บอลกลับโผบินผ่านคานออกไปแบบมิได้ลุ้น

ถัดมานาทีที่ 72 มาร์โก อเซนสิโอ ทดลองปั่นฟรีคิกหน้ากรอบจุดโทษ บอลผ่านกำแพงลำแข้งเจ้าของบ้าน แม้กระนั้นยังเป็น ปิเครื่องปรับอากาศฝ่าจิ โกลลินี่ นายทวารอตาลันต้าขยับเขยื้อนตัวมาเหมาะสมตะครุบบอลยู่มือ ดูบอลสด

แม้กระนั้นแล้วนาทีที่ 86 โทนี่ โครส เล่นลูกเตะมุมสั้นทางด้านซ้ายมาที่ ลูก้า โมดริช แทงมาหน้ากรอบจุดโทษให้ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ บรรจงปั่นบอลโค้งหนีมือนายทวารคู่ปรปักษ์ซุกตาข่ายอย่างเที่ยงตรง

บุกแทบตายได้หนึ่ง จบเกม เรอัล มาดริด บุกเฉือน อตาลันต้า 1-0 จำเป็นต้องดวลกันเกมสองวันที่ 16 เดือนมีนาคม เพื่อหากลุ่มเข้ารอบถัดไป