เชลซีบุกเชือด โธมัส ทูเคิ่ลแจ๋วซิวชัย 3นัดหมายติด พุ่งขึ้นที่5ตามหงส์แดงแต้มเดียว

เชลซีบุกเชือด

เชลซีบุกเชือด จอร์จินโญ่สังหารจุดลูกโทษเป็นประตูชัยพา เชลซีบุกไปคว้าสามแต้มเหนือเชฟฟิลด์ยูไนเต็ด 

เชลซีบุกเชือด จอร์จินโญ่ สังหารจุดลูกโทษเป็นประตูชัยพา เชลซี บุกไปคว้าสามแต้มเหนือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด บ๊วยของลีก 2-1 ทำให้ โธมัส ทูเคิ่ล คุม 4 เกมไร้พ่ายแพ้แถมซิวชัย 3 นัดหมายติด

แซงเวสต์แฮมขึ้นไปรั้งชั้น 5 มี 39 คะแนนเสมอกันแม้กระนั้นลูกได้เสียดีมากยิ่งกว่า โดยตามหลังอันดับ 4 หงส์แดง เพียงแค่แต้มเดียวแค่นั้น ในศึกพรีเมียร์ลีก นัดหมายที่ 23 เมื่อคืนนี้วันอาทิตย์ก่อนหน้าที่ผ่านมา

พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เมื่อคืนนี้วันอาทิตย์ที่ 7 เดือนกุมภาพันธ์ก่อนหน้าที่ผ่านมา เจ้าของบ้าน เชฟฟิลด์ยูไนเต็ด กลุ่มบ๊วยอันดับ 20 ของตาราง เปิดบ้านต่อกร เชลซี ชั้น 8

โดยผลงานปัจจุบันของทั้งสองนั้น “ดาบคู่” เพิ่งจะชนะเกมที่ 3 ในลีกข้างหลังเปิดรังบี้ เวสต์บรอมวิช 2-1 ส่วน “สิงห์บลูส์” ฟอร์มเฉียบบุกไปเชือดเอาชนะ สเปอร์ส 1-0

คริส ไวล์เดอร์ นายใหญ่ของเจ้าถิ่นเกมนี้วางโอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ เป็นทีเด็ดแนวรุกคู่กับโอลิเวอร์ เบิร์ก ส่วนทางฝั่งโธมัส ทูเคิ่ล ประเดิมคุม “สิงห์บลูส์” อย่างสวยหรู 3 เกมไม่เสียประตูให้กลุ่มใด

รวมทั้งชนะมา 2 นัดติด เกมนี้วาง ติโม แวร์เนอร์ ยืนคู่กับ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ โดยมี เมสัน เม้าน์ท รับบทบาทหน้าต่ำ ประเดิมมาได้เพียงแค่ 30 วินาที เจ้าของบ้าน “ดาบคู่” เกือบจะได้ลุ้นขึ้นนำหลังโอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่

ผ่านบอลให้ โอลิเวอร์ เบิร์ก ฉุดกระชากเข้าไปซัดเสาแรกบอลพุ่งหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว นาที 6 “สิงห์บลูส์” แทบชิงขึ้นนำไปก่อนด้วยเหมือนกัน บอลจาก จอร์จินโญ่ วางข้ามหัวแนวรับเจ้าถิ่นให้ ว่ากล่าวโม แวร์เนอร์ หลุดเข้าไปกระดกข้ามตัว แรมส์เดล กำลังจะเข้าอยู่แล้ว

แต่ว่า คริส บาแชม ยังตามมาช่วยสกัดออกข้างหลังไปเฉียด นาที 12 เควิน เฟรนด์ เป่าให้จุดลูกโทษแก่เจ้าถิ่นข้างหลัง เบน ชิลเวลล์ ไปฟาวล์ใส่ คริส บาแชม ในจุดโทษ แต่ว่าภายหลังเช็กจากวีเออาร์แล้ว

บาแชม ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าทำให้ ผู้ตัดสินเปลี่ยนคำตัดสินให้เตะจากหน้ากรอบเขตโทษของสิงห์บลูส์แทน เปลี่ยนเป็น เชลซี ที่ครอบครองบอลได้เหนือกว่า แม้กระนั้นจังหวะยิงจะๆยังไม่มีเท่าไร นาที 29

อันโตนิโอ รือดิเกอร์ แนวรับสิงห์บลูส์ทดลองซัดไกลนอกกรอบ แม้กระนั้นบอลหลุดเสาแรกออกไปแบบไม่ได้ลุ้น นาที 34 แนวรับดาบคู่เคลียร์บอลไม่ดี รีซ เจมส์ ตัดบอลได้แปะคืนหลัง

ให้เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ครอสไปหน้ากรอบให้ เบน ชิลเวลล์ เทกตัวขึ้นกระแทกบอลผ่านคานออกไป นาที 43 เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้จากจังหวะขึ้นเกมด้านซ้าย ชิลเวลล์

เชลซีบุกเชือด แทงขึ้นหน้าเข้าไปในกรอบให้ ตำหนิโม แวร์เนอร์ ถึงเส้นข้างหลังแล้วหักเข้ากึ่งกลางให้ เมสัน เมาน์ท วิ่งมาซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเลียดแทงมุมตาข่ายเข้าไป กีฬาแกลิค

เชลซีบุกเชือด

เจ้าถิ่นชอบใจไม่แปล๊บเดียวมาเสียลูกที่จุดลูกโทษในนาที57

เชลซีบุกเชือด จบครึ่งแรก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ตามหลัง เชลซี 0-1 ช่วงหลัง นาที 55 เจ้าของบ้าน “ดาบคู่” มาทวงประตูไล่ตีเสมอ 1-1 จากข้อผิดพลาดของแนวรับเชลซีที่ไม่รู้เรื่องคุ้นเคย ข้างหลังจังหวะบุกของ เชฟฯยูฯ โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ แทงบอลเข้าไปในกรอบ เอดูอาร์ เมนดี้ กำลังวิ่งออกมาเล่นบอล

แต่ว่า อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ดันส่งกลับข้างหลังเปลี่ยนเป็นทำเข้าประตูตัวเองไป กระนั้นเจ้าถิ่นชอบใจไม่แปล๊บเดียวมาเสียลูกที่จุดลูกโทษในนาที 57 ข้างหลังผู้ตัดสินหยุดเกมแล้วไปมองภาพช้าจากจอ วีเออาร์ ข้างสนามจากจังหวะที่ คีน ไบรอัน จ่ายคืนหลังสั้นไปโดน ติโม แวร์เนอร์ ดูบอลสด

ฉกบอลกำลังจะแตะหลบ แอรอน แรมส์เดล แต่ว่าโดนกระแทกล้มลง ผู้ตัดสินหลังเช็กแล้ววิ่งมาให้จุดโทษแก่เชลซี และก็เป็น จอร์จินโญ่ ที่สังหารจุดโทษเข้าไปไม่พลาด ให้ เชลซี กลับแซงขึ้นนำ 2-1 อีกที นาที 63 โธมัส ทูเคิ่ล ปรับสองตำแหน่งเปลี่ยนเอา คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย รวมทั้งมาร์กอส อลอนโซ่ ลงไปเล่นแทน

โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ รวมทั้งเบน ชิลเวลล์ แทน ส่วนเจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวคนแรกถอดเอาโอลิเวอร์ เบิร์ก ออกแล้วส่ง เดวิด แม็คโกลดริค ลงเล่นแทน เจ้าของบ้านนานๆจะได้ลุ้น นาที 73 เดวิด แม็คโกลดริค ผู้เล่นสำรองได้ช่องส่องนอกกรอบแม้กระนั้นบอลก็ยังหลุดกรอบออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

จบเกม เชลซี บุกคว้าชัยเหนือ เชฟฯยูไนเต็ด หวุดหวิด 2-1 เก็บชัยชนะสามนัดหมายติด พร้อมแซง เวสต์แฮม ขึ้นรั้งชั้น 5 แถมข้างหลังลูกได้เสียมีมากยิ่งกว่า โดยมี 39 คะแนนตามหลัง อันดับ 4 ลิเวอร์พูลเพียงแค่แต้มเดียวเพียงแค่นั้น รายนามผู้เล่นทั้งคู่กลุ่ม เชฟฯ ยูไนเต็ด (3-5-2)

แอรอน แรมส์เดล – คริส บาแชม, จอห์น อีแกน, คีน ไบรอัน (บิลลี่ ชาร์ป น.68) – เจเดน โบเกิ้ล , จอห์น ลันส์แทรม, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด (เรียน บรูว์สเตอร์ น.86), จอห์น เฟล็ค, แม็กซ์ โลว์ – โอลิเวอร์ เบิร์ก (เดวิด แม็คโกลดริค น.62), โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ เชลซี (3-4-1-2) : เอดูอาร์ เมนดี้ – เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า,

เชลซีบุกเชือด อันเดรียส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ – รีซ เจมส์, มาเตโอ โควาซิช, จอร์จินโญ่, เบน ชิลเวลล์ (มาร์กอส อลอนโซ่ น.62)- เมสัน เม้าน์ท – ติโม แวร์เนอร์ (เอ็นโกโร่ ก็องเต้ น.75), โอริวิเย่ร์ ชิรูด์ (คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย น.62) คล็อปป์พอใจ