โชต้าโคตรคม ลิเวอร์พูล ทำผลงานสุดยอดด้วยการบุกยำใหญ่ อาร์เซน่อล ขาดลอยถึง 3 ประตูซึ่งเกมนี้แฟนลิเวอร์พูลจะต้องขอบคุณผู้เล่นสำรองที่ลงมาเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง
โชต้าโคตรคม ด้วยชัยนี้ก็ทำให้ผู้ร่วมทีมของ คล็อปป์ ใกล้ท็อปโฟร์มากขึ้นด้วยรวมทั้งยังถือว่าเป็นการเรียกความมั่นใจและความเชื่อมั่นก่อนบุกดวล เรอัล มาดริด ในกลางอาทิตย์นี้ พวกเรามาดูหลักสำคัญที่น่าสนใจในเกมนี้กัน กีฬาแกลิค
“เดอะ ค็อป” อาจมีเซ็งเล็กน้อยเมื่อเกมนี้ ดีโอโก้ โชต้า ออกตัวเพียงบนม้านั่งสำรองในขณะที่เจ้าตัวเพิ่งจะโชว์ฟอร์มฮอตในกลุ่มชาติด้วยการยิง 3 ประตูจาก 2 เกม
อย่างไรก็ดีถ้าเกิดมองดูอีกมุมหนึ่ง คล็อปป์ บางทีอาจมีความคิดเห็นว่า โชต้า สำคัญมากเลยจะต้องสั่งพักเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้เต็มเปี่ยมเนื่องจากว่าอย่าลืมว่ามีเกมสำคัญกับ เรอัล มาดริด ในกึ่งกลางอาทิตย์นี้รออยู่
เกมนี้ หงส์แดง เป็นข้างครอบครองบอลเหนือกว่าตลอดทั้งเกม แต่ว่าปัญหาก็คือจังหวะท้ายที่สุดพวกเขาขาดๆเกินๆตลอด โดยยิ่งไปกว่านั้นสามผสานดินแดนหน้าที่คู่แข่งจับทางได้ไม่ยาก มั่นใจว่าแฟนหงส์บางครั้งก็อาจจะเห็นภาพนี้จนชินตาในฤดูกาลนี้
แต่ว่าตอนนี้พวกเขามีชายที่ชื่อว่า “โชต้า” กลับมาแล้ว คล็อปป์ ตกลงใจครั้งสำคัญเปลี่ยนแปลง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ออกแล้วนำ โชต้า ลงมาในนาทีที่ 61 ซึ่ง 3 นาทีถัดมาเขาก็ไม่ทำให้แฟนหงส์ผิดหวังด้วยการกระแทกประตูขึ้นนำ
ประตูแรกนี้เหมือนจะเป็นเรื่องปกติเพราะเหตุว่าเป็นการครอสบอลจากข้างๆให้แผงหน้าโหม่งประตู แต่ว่าสิ่งที่ โชต้า ทำเป็นดีมากกว่าบรรดาแนวรุกสามผสานโน่นเป็นการวิ่งหาตำแหน่งในจุดโทษรวมทั้งความแหลมคมสำหรับในการทำคะแนน
ไม่เพียงเท่านั้นแผงหน้าชาวโปรตุกีสยังมากมายดอีกหนึ่งประตูจากการวิ่งเข้ามาหวดบอลในจุดโทษภายหลัง อาร์เซน่อล เสียบอลในแดนหลัง นี่นับว่าเป็นประตูที่ 12 ในช่วงฤดูกาลนี้แล้ว ทำให้เห็นว่าเขาสำคัญมากมากแค่ไหนกับเกมรุกของกลุ่ม สามผสานแดนหน้าอาจจะดีแต่ถ้าหากขาดโชต้าไปมันขาดความอร่อยมากอย่างชัดเจน ดูบอลสด
เมื่อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ไม่มีชื่ออยู่ในกลุ่มชาติอังกฤษตอนอาทิตย์ที่ผ่านมาทำให้หลายข้างกำเนิดข้อโต้แย้งกันว่าเป็นการตกลงใจที่ถูกหรือเปล่าของ แกเร็ธ เซาธ์เกต นี่เป็นโปรแกรมกลุ่มชาติคราวสุดท้ายก่อนต้องฝ่าบอลยูโรแล้ว แต่ว่าในเมื่อเขาไม่มีชื่อ ซึ่งก็นับได้ว่าเขาบางทีอาจอดฝ่ายูโรปีนี้หรือไม่?
เห็นด้วยว่าฤดูนี้ตัวบุกปีกขวาวัย 22 ปีมีฤดูกาลที่ไม่ดีนัก แต่ว่าเนื่องจากมาตรฐานที่เขาทำไว้เมื่อฤดูที่แล้วสูงเกินหน้าเกินตาคนอีกจำนวนไม่น้อย พอเพียงรักษามาตรฐานมิได้ก็เลยเป็นอย่างที่มองเห็น แต่ทว่าเขายังเป็นเลิศในตัวบุกปีกขวาที่เยี่ยมที่สุดในพรีเมียร์ลีกและก็เขาใช้ผลงานในสนามเกมนี้ซ้ำเติมว่าเขาจะต้องมีชื่อติดกลุ่มชาติอังกฤษในอีก 2 เดือนด้านหน้า
นอกเหนือจาก เทรนต์ จะครอสบอลสุดงามให้ โชต้า แล้ว เขายังสร้างช่องทางให้กลุ่มสูงถึง 4 ครั้ง นับว่าเป็นผู้เล่นที่ฟอร์มดีเยี่ยมที่สุดก่อนที่จะ โชต้า จะลงมาเป็นซูเปอร์ดูดซับ แล้วก็สิ่งที่จำเป็นเลยเป็นเกมรับซึ่งเกิดเรื่องที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยวิจารณ์เขาอย่างมากในช่วงฤดูกาลนี้ คล็อปป์ชมแข้ง
แม้กระนั้นสำหรับเพื่อการพบกับอาร์เซน่อล เขาสามารถเก็บ โอบาเมย็อง, คีแรน เทียร์นี่ย์ แล้วก็ เซดริก โซอาเรส อยู่มือ นี่นับว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่สุดยอดที่สุดในของเขาในฤดูกาลนี้
อาร์เซน่อล สู้ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงรวมทั้งผลการแข่งขันที่ออกมานับว่าไม่ผิดแปลกอะไร แต่ก่อนพวกเราจะมาสับผลงานของ “ปืนใหญ่” จำเป็นต้องอย่าลืมว่าพวกเขาขาดตัวผู้เล่นทั้งยัง กรานิต ชาค้าง, บูกาโย่ ซาก้า รวมทั้ง เอมิล สมิธ โรว์ ซึ่งเป็นสามคีย์แมนหลักในตำแหน่งกองกลางแล้วก็แนวรุก
การขาดอีกทั้งสามคนบางทีอาจเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ อาร์เตต้า ตกลงใจคิดแผนให้ อาร์เซน่อล เน้นย้ำเกมรับมากยิ่งกว่าธรรมดารวมทั้งอาศัยจังหวะสวนกลับ เมื่อ “เดอะ กันเนอร์ส” บากบั่นเซ็ตบอลจากดินแดนของตนเอง ผู้เล่นหลายคนไม่ค่อยเขยื้อนหาตำแหน่งกัน
ในช่วงเวลาที่ โอบาเมย็อง และก็ เปเป้ จะต้องลงมาล้วงบอลต่ำ พวกเขาจำต้องใช้เวลาสำหรับการสร้างเกมรุกขึ้นไป ซึ่ง หงส์แดง ใช้แนวทางบีบเพรสซิ่งไม่ให้กลุ่มของอาร์เตต้าขึ้นบอลได้ง่าย
ใน 25 นาทีแรก ผู้เล่นอาร์เซน่อลได้จับบอลในจุดโทษหงส์แดงเพียงแค่ครั้งเดียวเพียงแค่นั้นก่อนจำนวนจะมากขึ้นเป็น 4 เมื่อจบครึ่งแรก ในเวลาที่ช่วงหลังเสมือนหนังม้วนเดิม
อาร์เซน่อล ครอบครองบอลมิได้เลยทำเกมสวนกลับมิได้ด้วย พวกเขาจบเกมด้วยจังหวะยิงเพียงแค่ 3 ครั้ง ส่งบอลเพียงแค่ 299 ครั้ง (หงส์แดง จ่าย 610 ครั้ง) ได้ผลงานที่น่าผิดหวังมากมายๆของ อาร์เตต้า อาจจะต้องรอมองกันว่าพวกเขาจะกู้ฟอร์มมาในยูโปา ลีก ได้ไหม
เพียงแค่คิดก็เสียดายเช่นกันถ้าหาก ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ติดอยู่ แอนฟิลด์ จนกระทั่งม.ย.นี้ พวกเขาจะมีสถิติไม่มีแพ้เกมลีกในบ้าน 4 ปีต่อเนื่องกัน แต่ว่าในความจริงปีนี้ หงส์แดง ยังคงหาความมีชัยเกมลีกในบ้านไม่พบเลย โดยหนสุดท้ายที่พวกเขาเฮในบ้านเกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนธันวาคม (ชนะ สเปอร์ส 2-1)
ถ้าหากรวมเกมนี้แล้ว ลิเวอร์พูล ชนะเกมเยี่ยมสูงถึง 6 จาก 7 นัดหมายหลังสุด (ในลีก 5 ครั้ง, ชปล. 1 ครั้ง) ปราชัยครั้งเดียวโน่นเป็นเกมกับ เลสเตอร์ สิตี้ นี่นับว่าเป็นจุดแข็งใหม่ของ คล็อปป์ ไปแล้ว
เพราะว่าความปราชัยของชั้น 4 เชลซี รวมทั้งชั้น 3 เลสเตอร์ สิตี้ นี่ก็เลยเป็นนาทีทองที่ หงส์แดง จะกลับมาลุ้นท็อปโฟร์แบบสุดกำลังอีกทีและก็พวกเขาก็ไม่พลาดสามแต้มทำให้ลดช่องว่างจากท็อปโฟร์เหลือเพียงแค่ 2 คะแนนแล้ว
และก็ดูอย่างกับว่าโชคชะตาจะเปิดโอกาสเมื่อโปรแกรมที่เหลืออยู่ของพวกเขาจัดว่าเหนือกว่าคู่แข่งขันลุ้นท็อปโฟร์อย่างมากมายด้วยเหตุว่าเหลือพบกลุ่มจากบิ๊กสิกข์ซ์เพียงแค่เกมเดียวโน่นเป็นศึกแดงเดือดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเดือนหน้าแล้ว
ระหว่างที่ เลสเตอร์ สิตี้ แล้วก็ เชลซี มีเกมพบกับบิ๊กซิกข์ซ์อีกครั้งมละ 3 นัดหมาย ส่วน เวสต์แฮม อีกหนึ่งกลุ่มลุ้นฟุคบอลยุโรปก็จะต้องมีพบกับ เลสเตอร์ และก็ เชลซี ด้วย
เกมที่เหลืออยู่ของ หงส์แดง เป็นการพบกับ แอสตัน วิลล่า, ลีดส์, นิวติดอยู่สเซิ่ล, เซาธ์แฮมป์ตัน, เวสต์บรอมวิช, เบิร์นลี่ย์ และก็ คริสตัล พาเลซ มารอดูกันว่าลิเวอร์พูลจะจบด้านใน 4 ขั้นตอนแรกได้หรือเปล่า
