โหดไปไหม ส่องไลน์อัพเชลซีถ้าได้ฮาแลนด์เสริมทัพ

โหดไปไหม

โหดไปไหม คาด 11 นักเตะตัวจริง เชลซีที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด

โหดไปไหม จะส่งลงสู่สนามถ้าเกิดได้ เออร์ลิงฮาแลนด์มาล่าตาข่าย ในฤดูกาลหน้าเชลซี วางแผนใหญ่ ที่จะทุ่มเงินเป็นสถิติใหม่ ชมรมเพื่อดึงตัว เออร์ลิง ฮาแลนด์แนวรุกคนเก่ง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาเสริมกองทัพ

ให้ได้ในตอนปิดฤดูนี้ ถึงแม้ปีที่ผ่านมาพึ่งตีคลังเก็บของ ไปอย่างมากมาย กับการซื้อนักฟุตบอล หลายรายก็ตาม ฮาแลนด์มีค่าฉีกคำสัญญา 75 ล้านยูโร (ราว 2,700 ล้านบาท) ที่มีผลบังคับใช้ในปี 2022 ด้วยเหตุนั้น “เสือเหลือง” กีฬาขี่ม้า

ก็เลยยังสามารถเรียกค่าจ้างได้สูง ๆ ถ้าเกิดอยากขายศูนย์หน้า กลุ่มชาติประเทศนอร์เวย์วัย 20 ปี ในตอนซัมเมอร์นี้ เวลานี้ นักฟุตบอลที่มีค่าตัวแพงสุดของ “สิงห์บลูส์”หมายถึงไค ฮาแวร์ทซ์ มิดฟิลด์กลุ่มชาติเยอรมัน ที่ย้ายมาจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ด้วยค่าจ้าง 80 ล้านยูโร (ราวๆ 2,880 ล้านบาท)

เปิดรังสอนเชิง

โหดไปไหม ดังนั้นถ้าเชลซี จะดึงฮาแลนด์ มาเสริมทัพในปีนี้

โหดไปไหม อาจจำเป็นต้องทุ่มเงิน เป็นสถิติชมรมใหม่แน่ ๆ รวมทั้งนี่คาดว่า จะเป็น 11 ตัวจริงของกลุ่มในฤดูกาลหน้า ถ้าหากได้แผงหน้านอร์วีเจี้ยนจริง เริ่มจากตำแหน่ง ผู้เฝ้าประตูยังคงเป็น เอมองอาร์ เมนดี้ ที่สวมบทมือ 1 ถัดไป ส่วนแบ็กโฟร์ให้

รีซ เจมส์ ยืนตัวบุกปีกขวา ด้าน เบน ชิลเวลล์ เล่นทางด้านซ้าย ส่วนคู่เซนเตอร์เป็น คูร์ท ซูม่า กับ ติอาโก้ ซิลวา ในตอนที่มิดฟิลด์ 3 คนให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลาง กลุ่มชาติประเทศฝรั่งเศส รอปฏิบัติภารกิจตัดเกม ปลดปล่อยให้ เมสัน เมาท์

กับ ฮาคิม ซิเย็ค รอทำเกมรุก โดยมี ฮาแวร์ทซ์ เป็นตัวแทรกสอด ส่วน 3 ผสานดินแดนหน้าให้ คริสเตียน พูลิซิช ไปยืนขอบเส้นทางขวา ในเวลาที่ ติโม แวร์เนอร์ ปฏิบัติหน้าที่ฝั่งซ้าย โดยมี ฮาแลนด์ เล่นบทแผงหน้าตัวเป้า ดูบอลสด

ภายหลังสมัยก่อน ศูนย์หน้าชาวยูเครน ผงาดเอารางวัล บัลลงดอร์ ในปี 2004 จากการโชว์ฟอร์ม สุดโหดเหี้ยมได้กับ เอซี มิลาน และก็ยอดเยี่ยมในศูนย์หน้าระดับมหากาฬของโลกเวลานี้ จนถึงปี 2006 เชลซียอมทุ่มเงินมากถึง 30 ล้านปอนด์ พร้อมเป็นสถิติสูงสุด บนเกาะอังกฤษ ในขณะนั้นดึงตัว เชว่า เข้ามาเสริมกองทัพ

ดูบอลสด

อย่างไรก็ตามเส้นทาง ในแดนผู้ดี กลับเป็นฝันร้ายของเจ้าตัว

โหดไปไหม ภายหลังไม่สามารถ ที่จะแงะฟอร์ม ยอดเยี่ยมออกมาได้เลย แถมยังโดนการบาดเจ็บ เข้าซ้ำก็อีกหลายหน โดยฝากผลงาน กับกลุ่มไว้ที่ 9 ประตูเพียงแค่นั้น จากการลงเล่นเกมลีก 48 นัดหมาย ก่อนที่จะคัมแบ็กสู่ ดินาโม เคียฟ สังกัดเดิม

แรกในชีวิตการค้าขายหน้าแข้ง นับจากที่ “เอล นินโญ่” ย้ายจาก แอตเลติโก มาดริด มาเล่นให้กับ หงส์แดง เจ้าตัวก็ใช้เวลาปรับพฤติกรรม ในอังกฤษแค่เพียงเดือนเดียวแค่นั้น ก็สามารถระเบิด แฮตทริกแรก ก่อนแปลงร่างเป็น เปิดรังสอนเชิง

เครื่องจักรกระหน่ำประตูให้กับ “ลิเวอร์พูล” และก็ขึ้นชั้นเป็น ศูนย์หน้าขวัญใจสาวก “เดอะค็อป” ไปอย่างราบรื่น พร้อมเปลี่ยนเป็น หน้าแข้งเนื้อหอม ที่หลายทีมยักษ์ใหญ่ จ้องมองพรากตัวไป หนึ่งในนั้นเป็นเชลซี ก่อนที่จะ ประสบผลสำเร็จ

จับตัวได้ไปร่วมกลุ่มในปี 2011 ด้วยค่าจ้างสถิติใหม่ ในบนเกาะอังกฤษ อีกรอบในราคา 50 ล้านปอนด์ พร้อมได้รับการต้อนรับ อย่างอบอุ่นจากแฟนบอล ความคาดหวังมองเห็นเขามา ทำประตูได้อย่างถล่มทลาย แต่ว่าแม้กระนั้น ศูนย์หน้าสแปนิช