ดินแดนสายควัน อิตาลี มีจุดขายบุหรี่ทุกตรอกซอกซอย และผู้สูบก็มีทุกเพศทุกวัย

ดินแดนสายควัน

ดินแดนสายควัน นักฟุตบอลต้องการตื่นตัวเมื่อลงสนาม บุหรี่อาจจะพอมีข้อดีอยู่บ้าง

ดินแดนสายควัน บุคลากรฟุตบอลยุค เก่าของอิตา ลีถือว่าเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน โจ๋งครึ่มอย่างสุด ๆ เอาที่เห็นภาพง่าย
ที่สุดอย่าง เมาริซิโอซาร์รี่, คาร์โล อันเชล็อตติ หรือแม้กระทั่งกุนซือ แชมป์โลกอย่าง มาร์เซโล ลิปปี้ ต่างก็เป็นสิงห์อม
ควันตัวยง พวกเขาพก บุหรี่ไปทุกที่ สูบทีละหลาย ๆ มวน ชนิดที่ว่าไม่ต้อง เก็บทรงเหมือนนักเตะ ปัจจุบันสิ่งหนึ่งที่คุณ
ไม่สามารถเปลี่ยน แปลงคนอย่าง ซาร์รี่ ได้ คือความผูกพัน ของเขากับบุหรี่ เอาง่าย ๆ

ว่าแค่คุณเข้าไปคุย กับเขาในห้อง ทำงานของเขา หลังจากที่คุณออก มาคุณต้องอาบน้ำ ใหม่เลย เพราะไม่งั้น ตัวคุณ
จะเหม็นกลิ่นบุหรี่ มันจะติดตามเสื้อ ตามผ้าคุณไปหมด” จอร์โจ คิเอลลินี กองหลังตัวเก๋าของอิตา ลีและ ยูเวนตุส
เผยการได้เห็นคน เก่าคนแก่สูบบุหรี่ กันแบบไม่กลัวทำลาย สุขภาพแบบนี้ ถือว่าเป็นเรื่อง ธรรมดาที่นั่น ปัจจุบัน อิ ตาลี
มีจุดขายบุหรี่ ทุกตรอกซอกซอย และผู้สูบก็มีทุกเพศทุกวัย

พวกเขามีประชากรทั้งหมด 60 ล้านคน แต่มีถึง 15 ล้านคน ที่สูบบุหรี่ใน ชีวิตประจำวัน คิดเป็น 25% ของประชากร
ทั้งประเทศ นี่คือความ จริงที่น่าตกใจ พวกเขามีชีวิตที่ผูกพัน กับควันบุหรี่มานานนม มันอยู่คู่กับการใช้ ชีวิตประจำวัน
มาตั้งแต่ยุคผลิต ยาสูบแบบอัดมวน โดยเฉพาะในช่วงปี 1950 ถึงปี 2000 การสูบบุหรี่ถือเป็น เทรนด์ของชาวอิตา
เลียน โดยคนที่สูบ บุหรี่แบบจริงจัง สูบทุกวันมีตั้งแต่อายุ 15-69 ปี

พวกเขาสูบกันทุก ที่ไม่ว่าจะในร้านอาหาร ผับบาร์ โรงพยาบาล หรือแม้แต่บนรถเมล์ ที่เป็นขนส่งมวลชน การสูบบุหรี่
ถูกมองเป็นเสน่ห์ และเป็นการแสดงออก ในฐานะผู้อยู่ใน ดินแดนแห่งศิลปิน จนกระทั่งเมื่อมีคน สูบกันมากเข้า ทุก ๆ
ที่มีแต่ควันบุหรี่ จึงทำให้เริ่มมีการ ประท้วงและเริ่มมี กฎหมายเพื่อคุ้มครอง ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ ขึ้นมาในภายหลัง
ประกอบกับกรม การอนามัยโลก

ดินแดนสายควัน

หรือเริ่มผลักดันการ โฆษณาเรื่องข้อเสีย ของบุหรี่และมีการณรงค์ ให้เลิกในช่วงปี 1970อิตา ลีจึงเริ่มคล้อยตามพวก
เขาพยายามจะ ลดจำนวนผู้ สูบบุหรี่ให้น้อยลง โดยเฉพาะเรื่องของ อายุของผู้สูบ ที่พยายามจะกัน เด็กให้ห่างออก
ไป กฎหมายต่าง ๆ ก็เริ่มออกมาใช้ ตั้งแต่ห้ามโฆษณา การติดป้ายเตือน ตามบรรจุภัณฑ์ จนกระทั่งเริ่มมีกฎหมาย
ห้ามสูบในที่สาธารณะ ก็ปาเข้าไปใน ช่วงปลายยุค 90 แล้ว

ซึ่งแน่นอนว่า คนที่เกิดในยุค 50-60 หรือ 70 ที่สูบบุหรี่มาตั้งแต่เด็ก นั้นยากที่จะเลิกได้ และเลยตาม เลยมาจนทุก
วันนี้คำถามคือสูบ บุหรี่กันหนักขนาดนี้ ทำไมพวกเขายัง คงเก่งฟุตบอล ทั้ง ๆ ที่ทุกคนก็รู้ข้อเสีย ว่าบุหรี่ส่งผลเสีย
ต่อปอดโดยตรง และปอดคืออวัยวะที่ สำคัญมากในการออก กำลังกายเป็นไปไม่ได้ เลยที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งจะมีแต่ผลเสีย
100% บุหรี่ เองก็เช่นกัน ดูบอลสด

แม้ทุกคนบนโลกนี้จะรู้ว่า บุหรี่ สามารถทำลายสุข ภาพปอดได้โดยตรง

แต่มันมีเรื่องแปลก ๆ อยู่บ้าง และอาจจะ เกี่ยวข้องกับ เหล่านักเตะอิตาลี ที่สามารถสูบบุหรี่ไปแล้วก็เล่น ฟุตบอล
ระดับสูงไปด้วยได้ บุหรี่สามารถเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ได้ทั้งในระยะสั้น ๆ (เพิ่มขึ้นจากปกติราว 20 ครั้งต่อ
นาที) และตลอดวัน (เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 7 ครั้งต่อนาที) ดังนั้นสำหรับอาชีพ นักฟุตบอลที่ต้องการ การตื่นตัวเมื่อลง
สนาม ดินแดนสายควัน

บุหรี่อาจจะพอมี ข้อดีอยู่บ้างในส่วนนี้ นอกจากนี้ นิโคตินในบุหรี่ยังสัมพันธ์ กับนักฟุตบอลบางอย่าง เนื่องจากมัน
ยังออกฤทธิ์ให้มี ความอยากอาหารน้อยลง ด้วยการสร้างชั้นที่ เคลือบลิ้นทำให้ อาหารไม่อร่อย ดังนั้นสำหรับการ
สูบุหรี่วันละซองสองซอง ก็อาจจะเป็นไปได้ที่ ผู้สูบจะกินอาหารน้อยลง และอาจจะทำให้ ลดน้ำหนักได้ไปโดย
ปริยาย อีกส่วนหนึ่งที่ อาจจะโยงไปหา กันได้คือ นิโคติน ดินแดนสายควัน

ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใส่ ในบุหรี่มากที่สุดนั้น มีฤทธิ์ที่จะไปกดประสาท ส่วนกลางของสมอง หลังจากที่สูบเสร็จและ
นิโคตินออกฤทธิ์ จะทำให้ผู้สูบ รู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น และกระปรี้กระเปร่า ในช่วงขณะหนึ่ง ซึ่งงจุดนี้ก็ดูจะ
สัมพันธ์กับสไตล์ การเล่นของนักเตะ อิตาลี ที่ดูจะเป็นศิลปิน ไปเนิบ ๆ ใจเย็น ๆ แก้ไขสถานการณ์ที่ดูจวน
ตัวให้ดูง่าย ๆ แบบเหลือเชื่อ เมื่ออยู่ในสนาม

ขณะที่กุนซือชาว อิตาเลียนก็มักจะเป็น พวกจอมแทคติกความ คิดซับซ้อน เชี่ยวชาญในการแก้เกม ดังนั้น
ก็ไม่แน่ว่ากุนซืออย่าง ลิปปี้ อาจจะมีบุหรี่เป็นเคล็ด ลับในการพาทีมคว้าแชมป์โลกก็เป็นได้ ดูเหมือนนี่จะเป็น
ข้อดีทั้งหมดที่พอจะหาได้กับบุหรี่ ซึ่งแน่นอนว่ามันพ่วงมา กับข้อเสียที่ผ่านการพิสูจน์ ทางการแพทย์มาแล้ว
มากมายหลายข้อ อย่างไรก็ตามในส่วนของข้อดีนั้น

ดินแดนสายควัน

มีความสัมพันธ์กับนิสัยหรือการเล่นฟุตบอลของชาวอิตาเลียนพอสมควร โชคยังดีที่รัฐบาลอิตาลีไม่ได้ปล่อย
ให้ปัญหาเรื่องนี้คาราคาซังจนแก้ไขไม่ได้ พวกเขาพบปัญหาการสูบบุหรี่ที่ทำลายสุขภาพของคนในประเทศ
ไม่ว่าจะคนสูบโดยตรง หรือผู้รับควันบุหรี่มือ 2 ที่ถือเป็นภาระของรัฐในการดูแลสุขภาพ ดังนั้นพวกเขาจึง
แก้ไขอย่างจริงจังขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก ๆ ปี ในปี 1990 อิตาลี

ควบคุมการติดฉลากเพื่อบอกข้อเสียจากบุหรี่ว่าทำลายสุขภาพขั้นร้ายแรง เช่นเดียวกับการกระจายความรู้
เรื่องข้อเสียของบุหรี่ให้กับนักเรียนทุกโรงเรียนในประเทศ รวมถึงการห้ามโฆษณาบุหรี่ทั้งทางตรงและทาง
อ้อมทุกรูปแบบ ฟันเฟืองสำคัญ | กีฬาแกลิค