ลุ้นลบสถิติ ถ้าเกิดพวกเขาสามารถเก็บความมีชัยได้ ก่อให้กลุ่มคู่แข่งแย่งลุ้นแชมป์
ลุ้นลบสถิติ เกมนี้ “ลิเวอร์พูล” อาจจัดชุดใหญ่ไฟกะพริบ เนื่องจากพวกเขาเต็มไปด้วยความเอาจริงเอาจังที่จะลบสถิติการเล่นเกมเยี่ยมสุดเสื่อมโทรมในช่วงฤดูกาลนี้ โดยสะกดคำว่าชนะไม่เป็นถึง 5 แมตช์ต่อเนื่องกัน เพราะฉะนั้นนี่เป็นบททดลองสำคัญสำหรับแชมป์เก่าอย่างยิ่งจริงๆ
- ข่าวดีไม่มีนักเตะเจ็บเพิ่ม
สิ่งที่ทำให้สาวก “เดอะ ค็อป” โล่งใจที่สุดเวลานี้ก็คือการไม่มีรายชื่อนักฟุตบอลใหม่บาดเจ็บเพิ่ม เพราะไม่อย่างนั้น เจอร์เก้น คล็อปป์ คงจะได้เดินเข้าไปศูนย์ฝึกหัดเยาวชนเพื่อมองหานักฟุตบอลดาวรุ่งดวงใหม่ สำหรับประยุกต์ใช้งานในยามที่ พิการแบบงี้ เน้นหวังเก็บชัย
ลุ้นลบสถิติ ยิ่งกว่านั้นยังมีข่าวดีเพิ่มอีกก็คือ โฌแอล มาติป กองหลังตัวกลาง ตัวหลัก คาดว่าจะหายเจ็บรวมทั้งกลับมาฟิตสมบูรณ์สำหรับลงสนามในเกมเยี่ยม คริสตัล ภายหลังที่เขาจะต้องพลาดช่วยกลุ่มในแมตช์เชือดชนะ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อกึ่งกลางสัปดาห์นี้
แต่ถ้าหากกำเนิดกรณีที่ ลุ้นลบสถิติ ปราการหลังชาวแคเมอรูน ยังไม่ฟิตเต็มที่ แน่ๆว่า ที่ปรึกษาเลือดด๊อยท์ช ไม่มีวันฝืนใช้งานนักเตะแน่ๆ เนื่องจากว่าเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหนัก ดังนั้นตัวเลือกที่จะถูกเอามาจับยืนคู่กับ ฟาบินโญ่ ก็อาจหนีไม่พ้น รีส วิลเลี่ยมส์ ซึ่งทำผลงานได้อย่างเด่นในเกมปะทะ สเปอร์ส
ช่วงเวลาเดียวกันในรายของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า แม้ว่าจะสามารถกลับมาลงซ้อมแบบลำพังๆแต่ว่าก็อาจจะไม่ได้ลงสนามในแมตช์นี้ โดย คล็อปป์ คาดหมายว่าจะมองเห็นนักเตะกลับมาฝึกซ้อมร่วมกับสหายร่วมกลุ่มแบบเต็มอัตราศึกในอาทิตย์หน้า พร้อมทั้ง เจมส์ มิลเนอร์ รวมทั้ง เซอร์ดาน ชากีรี่
สำหรับ ดีโอโก้ โชต้า คงจะจำต้องรอคอยให้สภาพร่างกายฟิตมากกว่านี้อีกซักอาทิตย์สองสัปดาห์ แต่ว่าที่แน่ๆก็คือ นาบี เกอิต้า แล้วก็ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ได้โอกาสที่จะได้ลงในสนามในแมตช์นี้
- สถิติเกมเยือนที่น่าสยดสยอง
ถ้าเกิดไม่นับ มาติป ที่ยังจำเป็นต้องรอดูว่าสภาพร่างกายจะบริบูรณ์เต็มร้อยหรือเปล่า งานนี้แฟนบอล คงจะได้มองเห็นบรรดาขุนพลตัวหลักที่จะกลับมาประจำการช่วยกลุ่มในแมตช์เยี่ยมถิ่น เซลเฮิร์สท์ พาร์ค โดยชุดนี้อาจหนีไม่พ้นชุดที่เอาชนะกลุ่มของกุนซือโชเซ่ มูรินโญ่
แน่ๆว่า อลีสซง เบ็คเกอร์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม คงจะได้ลงสนามเป็นตัวจริง เหมือนกับสามผสาน “หินเหล็กไฟ” โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ รวมทั้ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
แต่สิ่งหนึ่งที่ “หงส์แดง” จะต้องกลุ้มใจก็คือผลงานในการออกไปเล่นนอกบ้าน เพราะว่าต่อให้กลุ่มเป็นนักฟุตบอลชุดที่เยี่ยมที่สุดแม้กระนั้นสำหรับในช่วงฤดูกาลนี้ พวกเขากลับเล่นได้ไม่ดีเลยในแมตช์เยี่ยม โดย 6 แมตช์นอกบ้านเอาชนะเพียงแค่ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เพียงแค่นั้น ที่เหลือเป็นแพ้กับเสมอ
โดยเฉพาะแมตช์ที่แพ้กลุ่มของคล็อปป์ ออกไปโดน “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า สอยยับไม่นับพี่น้อง 2-7 รวมทั้งจากนั้นก็เสมอเกมเยี่ยม 4 แมตช์ติดต่อกัน ด้วยเหตุนี้ตลอดช่วงเกือบจะ 3 เดือนที่ผ่านมา สะกดคำว่าชนะไม่เป็นเลย เมื่อเล่นนอกถิ่นแอนฟิลด์
ดังนี้ เคยมีสถิติไม่มีชัยชนะจากการลงสู่สนาม 6 เกมเยี่ยมในลีกเมื่อม.ค. 2011 ขณะสักครู่กันก็เคยเสมอ 5 แมตช์ต่อเนื่องกันเมื่อธันวาคม 1991 ฉะนั้น คล็อปป์ คงจะไม่อยากทาบสถิตินี้ในแมตช์ปะทะ พาเลซ แน่ๆ
- มาเน่ จอมสังหาร “ดิ อีเกิ้ลส์”
สำหรับนักฟุตบอลที่มักจะหลอน คริสตัล อาจหนีไม่พ้น ซาดิโอ มาเน่ เนื่องจากว่าเขาสามารถซัดประตูในการเจอกับ “ดิ อีเกิลส์” ได้ 7 เกมต่อเนื่องกัน ฉะนั้นในการเยี่ยมคู่แข่งขันในแมตช์นี้ ผู้เล่นที่พวกเขาห้ามละสายตามเด็ดขาดก็คือ สตาร์ลูกหนังชาวเซเนกัล รายนี้
ที่ผ่านมา ปีกกลุ่มชาติเซเนกัล จัดการซัด 6 ประตูต่อเนื่องกันในการเล่นเกมลีกปะทะ คริสตัล ไม่ว่าจะในสนามแอนฟิลด์ หรือที่เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ทำให้เขาเป็นนักเตะผู้ที่ 10 ที่ยิงได้ 6 ลูกต่อเนื่องกันในเกมพรีเมียร์ลีก เจอคู่แข่งกลุ่มเดียว และก็เป็นลำแข้ง ผู้ที่ 2 ที่ทำเป็นต่อจาก โม ซาลาห์ ซึ่งซัดใส่ บอร์นมัธ
นอกนั้น ยังมุ่งมั่นที่จะเก็บชัยให้ได้ เพราะมันจะมีผลให้พวกเขา สามารถยึดตำแหน่งหัวหน้าฝูง ในช่วงคริสต์มาส ได้ 3 ปีต่อเนื่องกัน ซึ่งสิ่งนี้มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องด้วยในตอนบ็อกซิ่งเดย์ที่มีโปรแกรมหฤโหดรออยู่ การที่กลุ่มสามารถยึดผู้นำฝูงอย่างแน่นแฟ้น จะเป็นการสร้างขวัญแรงใจได้อย่างดีเยี่ยมในการป้องกันแชมป์
แต่ มาเน่ กำลังอยู่ในตอนฟอร์มฝืดมากๆโดยเกมลีกปัจจุบันที่เขามีชื่อทำคะแนนเกิดขึ้นในแมตช์เสมอ เอฟเวอร์ตัน 2-2 ดังนั้นการไปเยี่ยม เจ้าตัวคงจะพกความตั้งใจมาเต็มกระเป๋าเพื่อทำประตูให้ได้ รวมทั้งหากทำสำเร็จไม่ใช่แค่สถิติจอมฆ่า “ดิ อีเกิ้ลส์” แค่นั้น แต่ยังเป็นการเรียกความเชื่อมั่นในตัวเองกลับมาอีกรอบด้วย
- คนคุ้นเคยกันทั้งนั้น
จำต้องยอมรับว่า คริสตัล พาเลซ มีอดีตผู้เล่น “เดอะ เร้ดส์” อยู่ในกลุ่มหลายคน และก็งานนี้ทำให้บรรดาข้ารูลูกหนัง ต่างเชื่อใน “กฎยิงประตูทีมเก่า” ซึ่งช่องทางที่จะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นก็สูง ด้วยเหตุว่านักเตะที่เล่นให้ “ปราสาทเรือนแก้ว” ในตอนนี้ เคยเล่นให้ มาแล้ว ถึง 4 คนเลยทีเดียว
เริ่มจาก มาร์ติน เคลลี่ ซึ่งเคยเล่นให้ มาแล้ว 62 เกมแล้วก็ยิงได้ 1 ประตู โดยในตอนนั้นเขาได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นอนาคตของกลุ่ม แต่ด้วยปัญหาเจ็บผสมกับฟอร์มที่ไม่คงเส้นคงวา สุดท้ายก็จำเป็นต้องระเห็จออกจากถิ่นแอนฟิลด์ และก็กลับมาได้ดิบได้ดีเมื่อใส่ชุดของ พาเลซ กีฬาแกลิค
คริสติย็อง เบนเตเก้ กองหน้าร่างบึ้ก อาจพลาดลงสู่สนามในเกมนี้เนื่องจากถูกใบแดงในเกมเสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ตอนกลางอาทิตย์ โดยเขาซัดไปแล้ว 3 ประตูจาก 3 เกมปัจจุบันให้กับต้นสังกัด แล้วก็เคยเล่นให้ “ลิเวอร์พูล” 42 แมตช์ในตอน 1 ฤดูแค่นั้น กับซัดไป 10 ประตู ฉะนั้นการที่เขามิได้ลงเล่นก็คือว่าเป็นข่าวดีของ “เดอะ เร้ดส์”
นอกเหนือจากนั้นยังมี มามาดู ซาโก้ ที่เล่นให้ยอดกลุ่มที่ถิ่นแอนฟิลด์ 80 เกมในทุกรายการรวมทั้งยิงไป 3 ประตู ส่วน นาธาเนียล ไคลน์ ย้ายกลับไปอยู่กับ พาเลซ ภายหลังที่เคยย้ายจากที่นี่ไปเล่นให้ เซาธ์แฮมป์ตัน โดยเขาเล่นให้ หงส์แดง 103 เกมในลีก และก็บอลถ้วยตั้งแต่ปี 2015-2020 แต่ว่ายิงไปเพียงแค่ 2 ประตูแค่นั้น ดูบอลสด
ทิ้งท้ายด้วย รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือขรัวชราที่เคยทำหน้าที่เป็นกุนซือให้กับ หงแดง ตั้งแต่ก.ค. 2010-มกราคม 2011 พร้อมสถิติชนะ 3, เสมอ 4 และก็แพ้ 8 เกม ที่สำคัญเขาเคยคุม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ชนะกลุ่มเก่า 1-0 ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อเดือนเมษายน 2012 มาแล้ว ด้วยเหตุดังกล่าวสาวก “เดอะ ค็อป” อาจจะเสียวหัวใจน้อยเพราะเกมนี้อาจจะมีพลังแฝงที่ไม่เห็นทำให้ หงส์แดง จำต้องเจอกับความยากลำบากก็ได้
